นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า รัฐบาลมอบหมายให้ทุกภาคส่วนมุ่งขับเคลื่อน Soft Power ด้านเฟสติวัลและด้านท่องเที่ยวรองรับนโยบาย Thailand Creative Content Agency (THACCA) และในส่วนของ วธ. มีนโยบาย Soft Power สร้างเสน่ห์วิถีไทย ครองใจคนทั้งโลกของ วธ. ในการผลักดันให้ประเทศไทย เป็นหมุดหมายการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ที่ผ่านมา รัฐบาลได้จัดงาน Thailand Winter Festivals ส่งเสริมการท่องเที่ยวด้านเฟสติวัลและท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมทั่วประเทศ ซึ่งในส่วน วธ. ได้จัดกิจกรรม เช่น งานเฉลิมฉลอง “ประเพณีสงกรานต์” ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติจากยูเนสโก เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 2566 ณ ลานคนเมือง กรุงเทพฯ การท่องเที่ยวโบราณสถานและพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน (Night Heritage) ที่วัดไชยวัฒนาราม จ.พระนครศรีอยุธยา อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร จ.กำแพงเพชร อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย จ.นครราชสีมา อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จ.สุโขทัย และโบราณสถานเวียงกุมกาม จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค.-31 ธ.ค. 2566 กิจกรรม “อารามอร่าม 10 วัด และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ” ในกรุงเทพฯ วันที่ 24 ธ.ค. 2566-2 ม.ค. 2567 งานสวดมนต์ข้ามปีเสริมสิริมงคลในส่วนกลาง ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ วัดอรุณราชวราราม และวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม วัดทั่วประเทศและวัดไทยในต่างประเทศทั่วโลก ตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค. 2566 -1 ม.ค. 2567 งานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ จ.เชียงราย (Thailand Biennale, Chiang Rai 2023) วันที่ 9 ธ.ค. 2566-30 เม.ย. 2567

รมว.วัฒนธรรม กล่าวต่อไปว่า ล่าสุดเป็นที่น่ายินดีที่ The Telegraph สื่อใหญ่จากอังกฤษได้จัดลำดับ “The 20 places you must visit in 2024” หรือ “20 สถานที่ที่ควรไปเที่ยวในปี 2024” โดย 10 อันดับแรกที่ทาง The Telegraph ได้จัดอันดับไว้ทั้งหมด 20 อันดับ ได้แก่ อันดับ 1 Newfoundland and Labrador, Canada อันดับ 2 Bad Ischl and the Salzkammergut, Austria อันดับ 3 Norwegian slopes, Scandinavia อันดับ 4 Okavango Delta, Botswana อันดับ 5 Wild Atlantic Way, Ireland อันดับ 6 Thailand, Southeast Asia อันดับ 7 Exmoor, England อันดับ 8 Stirling, Scotland อันดับ 9 Paris, France และอันดับ 10 Kea, Greece ซึ่งในส่วนของประเทศไทย ติดอันดับที่ 6 ในการจัดอันดับครั้งนี้ และเป็นประเทศเดียวในภูมิภาคเอเชีย ที่ติดอันดับท็อปเท็นด้วย

นายเสริมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า วธ. จะบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานรัฐ เอกชน และเครือข่ายทางศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม ส่งเสริม Soft Power ด้านเฟสติวัลและด้านท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ผ่านโครงการและกิจกรรมต่างๆ อาทิ งานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ โครงการยกระดับเทศกาลประเพณีสู่ระดับชาติและนานาชาติ ซึ่งในปี 2566 วธ. ได้ประกาศยกระดับไปแล้ว 16 เทศกาลประเพณี และล่าสุดประกาศเพิ่มเติม 6 เทศกาลประเพณี โครงการท่องเที่ยว “10 ตลาดบก 6 ตลาดน้ำ” โครงการเที่ยวชุมชนยลวิถี โครงการ “เส้นทางแห่งศรัทธา จาริกเส้นทางบุญในมิติทางศาสนา” จัดทำเส้นทางท่องเที่ยวในมิติศาสนาและวัฒนธรรมใน 4 รูปแบบ ได้แก่ เส้นทางสักการะพระบรมธาตุ เส้นทางตามรอยเถราจารย์ เส้นทางตามรอยความเชื่อความศรัทธาแห่งลุ่มแม่น้ำโขง และเส้นทางธรรมแห่งศรัทธา จ.ขอนแก่น เป็นต้น