เมื่อวันที่ 22 ม.ค. พ.ต.อ.เสกสรรค์ ศรีเพริศ ผกก.สภ.เมืองจันทบุรี พ.ต.ท.เกียรติศักดิ์ บุญยั่งยืน รอง ผกก.สภ.เมืองจันทบุรี พร้อมตำรวจ สภ.เมืองจันทบุรี นำตัวนายอมร เนื่องจำนงค์ หรือบอย อายุ 36 ปี มีประวัติการก่อเหตุโชกโชนจากชลบุรี มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังจากถูกจับเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา เนื่องจากก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อและหลอกลวงผู้หญิงไปกักขังไว้ในห้อง

สืบเนื่องจากกลางดึกที่ผ่านมา ตำรวจ 191 รับแจ้งเหตุจี้ชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งใน ต.ตลาด อ.เมืองจันทบุรี ได้เงินสดไป 6,000 บาท โดยคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีแดงดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลบหนีไป เจ้าหน้าที่จึงวิทยุสกัดจับ กระทั่ง รปภ. ของปั๊มน้ำมัน ปตท.ไพรัชแก๊ส ถนนถนนสายรักรักษามูล ต.ท่าช้าง อ.เมือง ได้ยินวิทยุและเห็นบุคคลต้องสงสัยขี่รถ จยย. เข้ามาจอดหน้าห้องน้ำภายในปั๊มน้ำมัน จึงแจ้งตำรวจตรวจสอบ จนสามารถจับกุมตัวได้ดังกล่าว

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนมาก่อเหตุ นายอมร ได้ยืมรถ จยย.ฮอนด้า ที่ใช้ก่อเหตุของเพื่อนมาจากเมืองพัทยา ชลบุรี และมาเช่าห้องพักไม่มีชื่อ ในเขต ต.วัดใหม่ อ.เมืองจันทบุรี ได้ 3 วันแล้ว กลางดึกที่ผ่านมาได้ขี่รถ จยย. ไปก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อดังกล่าว ระหว่างหนีได้เจอหญิงสาวขายบริการชวนไปหลับนอน เมื่อไปถึงห้องเช่าแห่งหนึ่ง ได้จับผู้หญิงมัดมือมัดเท้าไว้แล้วรื้อค้นทรัพย์สินแต่ไม่มีเงิน จึงทิ้งผู้หญิงไว้ในห้องพักคนเดียว ก่อนชิงเอารถ จยย.ยามาฮ่า ฟีโน่ สีม่วงขาว ทะเบียน จันทบุรี ของฝ่ายหญิงออกมาและแวะเข้าห้องน้ำในปั๊มน้ำมัน กระทั่งมาถูกจับกุมตัวดังกล่าว

จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหา พบมีประวัติก่อเหตุมาแล้วโชกโชนในพื้นที่ชลบุรี ถูกจับกุมดำเนินคดีจำคุกมาแล้ว หลังพ้นโทษออกมาได้สักพัก ก็กลับมาก่อเหตุอีก โดยเลือกมาทำในระยอง แทน สอบสวนเบื้องต้นให้การรับสารภาพว่า กลับมาก่อเหตุอีกครั้งเนื่องจากไม่มีเงินและไม่มีงานทำ

สอบถาม น.ส.เอ (นามสมมุติ) ผู้เสียหายเจ้าของรถ จยย. เบื้องต้นเล่าว่าตนขี่รถ จยย. อยู่ ก็พบกับผู้ก่อเหตุชักชวนไปหลับนอนด้วย ตนทำงานด้านนี้อยู่จึงรับปาก เมื่อไปถึงห้อง ผู้ก่อเหตุได้ใช้มีดจี้บังคับปิดปาก พร้อมจับมัดมือมัดเท้า จากนั้นค้นหาเงินในกระเป๋าแต่ไม่มีเพราะยังไม่ได้รับงาน ก่อนที่จะทิ้งคำพูดสุดท้ายว่า “เจ๊รออยู่นี่นะเดี๋ยวตอนเช้ามีคนมาช่วย” กระทั่งตนสามารถโทรฯ หาพนักงานโรงแรมเข้ามาช่วยเหลือได้ ส่วนคนร้ายนำรถจักรยานยนต์ของตนเองขี่หลบหนีไป

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำด้วยประการอื่นใดเพื่อทำให้ไม่เห็นหรือจำหน้าได้โดยมีอาวุธ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม ส่วนกรณีกักขังหญิงสาวนั้น อยู่ระหว่างผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดีต่อไป