เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 ม.ค. ที่ อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พร้อมด้วยนายนายสมภพ กุ่มประเสริฐ อายุ 40 ปี บิดาของนายกรวิชญ์ กุ่มประเสริฐ อายุ 16 ปี (ผู้ตาย) ซึ่งเป็นเยาวชนที่เคยถูกแก๊งลูกตำรวจใช้อาวุธมีดฟันและอำพรางศพด้วยการโยนลงน้ำพร้อมฟันซ้ำเมื่อเดือน พ.ย. 2565 อีกทั้งในงานศพของลูกชาย ผู้ก่อเหตุยังเข้ามาป่วนด้วยการปาระเบิดปิงปองและเบิ้ลท่อรถส่งเสียงดัง และมีพฤติกรรมตามข่มขู่คุกคามขู่ฆ่าลูกชายคนเล็ก ปัจจุบันครอบครัวยังคงคาใจหลังผ่านไปนาน 2 ปี คดีความยังค้างอยู่ที่ชั้นพนักงานสอบสวน สภ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว รวมถึงในกรณีดังกล่าว มีผู้เสียหาย 3 ราย แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับบอกว่ามีผู้เสียหายเพียงรายเดียว ทั้งๆ ที่ เพื่อนของลูกชายก็ถูกอาวุธมีดฟันแขนขาขาด อีกรายถูกปาระเบิดที่ขา ซึ่งลักษณะการเสียชีวิตของลูกชาย ก็คล้ายกับกรณีของป้าบัวผัน คือ ถูกโยนลงน้ำและฟันซ้ำ ก่อนทิ้งร่างไว้ในน้ำ เป็นเหตุให้ครอบครัวผู้เสียหายตั้งคำถามกับพนักงานสอบสวน สภ.อรัญประเทศ ว่าที่เรื่องเงียบไปเช่นนี้ เพราะกำลังหาคนแบบลุงเปี๊ยก (แพะ) อยู่ใช่หรือไม่ และที่สำคัญมีผู้ก่อเหตุหลายรายแต่ไม่มีใครถูกจับ อาจเพราะเป็นแก๊งลูกตำรวจใช่หรือไม่ หรือเป็นเพราะครอบครัวผู้เสียหายเป็นเพียงคนทำอาชีพเก็บขยะ คดีจึงไม่คืบหน้า โดยมี พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และในฐานะโฆษกดีเอสไอ เป็นตัวแทนรับเรื่อง

โดยนายกัน จอมพลัง กล่าวว่า วันนี้ตนพานายสมภพ กุ่มประเสริฐ คุณพ่อของน้องวัย 16 ปี ซึ่งเสียชีวิตจากการถูกผู้ต้องหาที่เป็นเด็กและเยาวชน เบื้องต้นจำนวน 3 ราย ได้แก่ ด.ช.มาวิน อายุ 15 ปี ด.ช.แบงค์ อายุ 14 ปี (เป็นคนที่ใช้อาวุธมีดฟันนายกรวิชญ์และเกี่ยวข้องกับเคสป้าบัวผัน) และ ด.ช.สอง อายุ 16 ปี (ขอสงวนชื่อและนามสกุลทั้งหมด) ก่อเหตุใช้อาวุธมีดฟันและทิ้งร่างนายกรวิชญ์ลงในบ่อน้ำ เข้าร้องทุกข์ขอให้ดีเอสไอช่วยติดตามความคืบหน้าของคดี หลังผ่านไปนาน 2 ปี คดีไม่มีความคืบหน้า สำนวนยังอยู่ในชั้นของพนักงานสอบสวน สภ.อรัญประเทศ ตนมองว่าคดีเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2565 แต่จนถึงตอนนี้ปี 2567 กลับดองสำนวนไว้นานจนคุณพ่อรู้สึกว่าลูกชายตายฟรี ไม่ได้รับความเป็นธรรม และพฤติกรรมการก่อเหตุก็มีลักษณะการตายคล้ายของป้าบัวผัน คือ ทำร้ายจนสาหัสและจับลงในน้ำ ตนได้แต่ตั้งข้อสังเกตว่า หาก 2 ปีที่แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการจับกุมสอบสวนผู้ต้องหาที่เป็นเด็กและเยาวชนเหล่านี้ การตายของป้าบัวผันจะเกิดขึ้นหรือไม่ แต่กลับเป็นเพราะว่าพวกผู้ต้องหาย่ามใจ เพราะไม่ถูกดำเนินคดี และยังกร่างไม่ตระหนักถึงโทษความผิด จึงคิดทำอยู่เรื่อย ๆ และตนอยากฝากไปทาง สภ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ให้รับรู้ว่าชาวบ้านต่างอยู่ด้วยความหวาดระแวง เพราะขนาดลูกชายของนายประเสริฐเสียชีวิต เด็กเหล่านี้ยังไปตามก่อเหตุรำคาญถึงงานศพของน้องวัย 16 ปี และตามป่วนขู่ฆ่าอีกด้วย ทั้งล่าสุด เหตุการณ์เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา เด็กพวกนี้ยังไปเบิ้ลท่อรถที่บ้านของนายสมภพอีก เจ้าตัวเขาอยู่ไม่ได้ ต้องระหกระเหินหนีไปอาศัยที่อื่นเพื่อป้องกันความปลอดภัย พวกท่านในฐานะตำรวจจะทำอย่างไร จะดำเนินคดีให้เกิดความเป็นธรรมได้หรือไม่ และตำรวจเจ้าของสำนวนที่ถูกย้ายไปช่วยราชการที่อื่น จะถูกตรวจสอบย้อนหลังหรือไม่ที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ทำสำนวนคดีให้แล้วเสร็จ กลับดองไว้นาน 2 ปี ตอนนี้พยานหลักฐานจะยังอยู่หรือไม่ ตนขอให้ตำรวจช่วยทำคดีอย่างจริงจัง ช่วยกู้วิกฤติศรัทธาตำรวจในสายตาคนไทย และให้ความเป็นธรรมแก่ประชาชนด้วย ทั้งนี้ ในเวลา 15.00 น. ตนจะพานายสมภพเดินทางไปสโมสรตำรวจ เพื่อเข้าพบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เพื่อขอให้ช่วยเร่งรัดติดตามคดี

ขณะที่นายสมภพ กุ่มประเสริฐ บิดาของน้องวัย 16 ปี กล่าวว่า กลุ่มผู้ต้องหายังมีพฤติกรรมเหมือนเดิม ยังมีการมาเบิ้ลท่อรถจักรยานยนต์และปาระเบิด ตนอยู่อย่างหวาดระแวงไม่ไหว เราทั้งเสียลูกชายไป และไม่ได้รับความเป็นธรรม และยังโดนข่มขู่ด้วย จึงตัดสินใจพาครอบครัวย้ายหนีเพื่อความปลอดภัย ส่วนเรื่องรายได้ ถือว่าสูญหายไปเยอะ แม้ตนจะเป็นเพียงคนเก็บขยะ แต่ปกติแล้วตนจะมีรายได้ประมาณวันละ 500 บาท แต่ทุกวันนี้ทำงานได้แค่วันละ 200 บาทเท่านั้น ตนจึงคาดหวังว่าหลังจากนี้ทางคดีอาญา ควรจะมีความคืบหน้าบ้าง ไม่อยากให้ลูกตายฟรี

ด้าน พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ โฆษกดีเอสไอ กล่าวว่า สำหรับเคสของนายสมภพ ทางดีเอสไอจะพิจารณาตรวจสอบรายละเอียดทางคดีและรับฟังอย่างรอบด้าน รวมถึงอาจช่วยประสานในเรื่องของความคืบหน้าทางคดีให้ด้วย แต่การจะทำเรื่องโอนสำนวนจากในมือของตำรวจ สภ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ยังคงไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะต้องไปดูในรายละเอียดและข้อเท็จจริงทั้งหมด ก่อนมีการหารือร่วมกันว่าเข้าเกณฑ์การรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ อย่างไร.