เมื่อวันที่ 25 ก.ย.​ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านในหลายอำเภอของ จ.นครศรีธรรมราช​ โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง ประกอบด้วย อ.เมือง อ.พระพรหม อ.เฉลิมพระเกียรติ​ อ.จุฬาภรณ์ อ.ชะอวด  อ.เชียรใหญ่ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดมาอย่างต่อเนื่องต่างลืมตาอ้าปาก มีอาชีพและมีรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำทั่วหน้า หลังจากรัฐบาลปลดล็อกพืชกระท่อมจนชาวบ้านสามารถขายใบพืชกระท่อมได้

รวมทั้งเกิดกระแสความต้องการต้นตอพืชกระท่อมจาก จ.นครศรีธรรมราช ทั้งต้นตอที่เสียบยอด เสียบตา ติดตา เสียบข้าง หรือต้นเพาะจากเมล็ด ชาวบ้านได้แห่เข้าป่าละเมาะหรือกลางทุ่งนาเพื่อหาต้นตอพืชกระท่อมขี้หมู หรือ ต้นกระทุ่ม เพื่อนำมาขายจากในระยะแรกๆ ต้นละ 5-15  บาทตามขนาดลำต้น แต่ในปัจจุบันราคาสูงขึ้นถึงระหว่าง 20-60 บาท และเริ่มหายากมากยิ่งขึ้น

จากการลงตรวจสอบในพื้นที่ ต.เขาพระทอง ต.นางหลง ต.ขอนหาด และ ต.เคร็ง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช พบว่าชาวบ้านแทบทุกหลังคาเรือน หันมาผลิตต้นตอพืชกระท่อมจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง บางหมู่บ้านได้รวมตัวผลิตต้นตอพืชกระท่อมจำหน่าย โดยมีลูกค้าทั้งจากในจังหวัด และต่างจังหวัดเดินทางมาซื้อกันอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังจำหน่ายผ่านทางระบบออนไลน์อีกด้วย ทำให้แต่ละครัวเรือนและแต่ละกลุ่มมีรายได้สูงถึงวันละ 15,000-100,000 บาท เฉพาะในพื้นที่หลายตำบล อ.ชะอวด คาดว่ามีเงินจากการซื้อขายต้นตอพืชกระท่อม ใบพืชกระท่อมแล้วหลายสิบล้านบาท และหากรวมเกือบ 10 อำเภอ ของ จ.นครศรีธรรมราช  มีเงินสะพัดส่งผลให้ประชาชนมีวิถีการดำรงชีวิตในช่วงพิษไวรัสวิด-19 ที่ดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา

นายนราวิชญ์ ทองคง​ อายุ 26 ปี ตัวแทนชาวบ้านที่ออกหาต้นพืชกระท่อมขี้หมูและเสียบยอด เสียบตาต้นพืชกระท่อมขายใน ต.นางหลง​ และ ต.ขอนหาด กล่าวว่า หลังรัฐบาลปลดล็อกพืชกระท่อม จากยาเสพติดตนได้ร่วมกับชาวบ้าน จัดตั้งกลุ่มอาชีพขายต้นตอพืชกระท่อมมาเกือบ 1 เดือนแล้ว เริ่มจากการหาต้นตอพืชกระท่อมขี้หมูขายและต่อยอดมาเสียบยอด เสียบตาต้นพืชกระท่อมขายในราคาต้นละ 70-100 บาท แค่กลุ่มต้นกลุ่มเดียวขายต้นตอพืชกระท่อมไปแล้วกว่า 20,000 ต้น รวมมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านบาท นำเงินทำได้มาจัดสรรแบ่งปันกันตามสัดส่วนทำให้มีรายได้สูงมากกว่าการประกอบอาชีพอื่น ๆ ทุกอาชีพที่ผ่านมา และคาดว่ากระแสการจำหน่ายต้นพืชกระท่อมเสียบยอดเสียบตาจะมีต่อไปอย่างน้อย 2-3 เดือน