กรณีเมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมา เกิดเหตุช้างทำร้ายนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวงานประจำปี อนุสรณ์ดอนเจดีย์ อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ทรงกอบกู้เอกราชให้ชาติไทย จัดระหว่างวันที่ 18 ม.ค.-1 ก.พ. 67 ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 4 ราย นำส่ง รพ.ดอนเจดีย์ ประกอบด้วย นางจุฑา พันธุ์เจริญ อายุ 58 ปี นายสำเริง สอนคุณ อายุ 46 ปี น.ส.นชากร อาจแพทย์ และ นางชู เหมือนเดช อายุ 78 ปี โดย 3 รายแรกมีอาการฟกช้ำ ส่วนนางชู ถูกงวงช้างฟาดอย่างแรงด้วยอายุที่มาก ทำให้บาดเจ็บสาหัสต้องนำตัวส่งห้องไอซียู รพ.เจ้าพระยายมราช ทำการผ่าตัดด่วน ตามที่ได้เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

ช้างทำร้ายคนในงานอนุสรณ์ดอนเจดีย์ ไม่ได้ ‘ตกมัน’ แต่มีคนไปแหย่

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าล่าสุด นางชู เหมือนเดช อายุ 78 ปี ซึ่งอาการหนักที่สุด เลือดออกในเยื่อหุ้มสมองและกะโหลกศีรษะแตก ต้องผ่าตัดฉุกเฉิน ได้เสียชีวิตแล้ว เมื่อเวลา 05.30 น. วันนี้ ท่ามกลางความโศกเศร้าของลูกหลาน โดยศพนางชู ญาตินำไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่ศาลาสมเด็จพระนเรศวร วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร และจะทำการฌาปนกิจวันจันทร์ที่ 5 ก.พ.67

นางกรรณิการ์ ตุ้มวงษ์ หลานสะใภ้นางชู เผยว่า วันเกิดเหตุตนพร้อมด้วยนางชู และญาติพี่น้องประมาณ 4-5 คน กลับจากงานที่ จ.กาญจนบุรี จึงพานางชู ไปเที่ยวงานอนุสรณ์ดอนเจดีย์ ก่อนเกิดเหตุมีช้างอยู่หน้าบริเวณทางเข้าชมชนช้าง นางชู ยื่นห่างจากช้างประมาณ 2 เมตร ขณะนั้นกลุ่มนักท่องเที่ยวได้เอาอาหารไปให้ช้างคาดว่าช้างตัวแม่จะหวงช้างตัวลูก จึงวิ่งไปทั่วและชนนางชูจนล้มและหมดสติ ลูกหลานจึงรีบนำส่ง รพ.ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์แบบนี้ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่อยากให้ผู้เกี่ยวข้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวมากกว่านี้

นายมนตรี หมื่นเดช อายุ 51 ปี บุตรชายนางชู กล่าวว่า หลังเกิดเหตุทราบว่านางชู มีอาการหนัก รวมทั้งนางจุฑาทิพย์ พันธุ์เจริญ พี่สาว ได้รับบาดเจ็บ เพิ่งออกจากโรงพยาบาลมารักษาตัวที่บ้านแต่ยังเดินไม่ได้ เนื่องจากกระดูกต้นขาขวาหัก โดยตนได้เรียกค่าเสียหายในการรักษานางชู 1 ล้านบาท และนางจุฑาทิพย์ 7 แสนบาท กับเจ้าของช้าง อยู่ในระหว่างต่อรอง ซึ่งตนทำบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.ดอนเจดีย์ ด้วย

“ทราบว่ามียูทูบไลฟ์สดลงข้อมูลผิดๆ ทำให้ครอบครัวตนเสียหาย เนื่องจากตัวเลขที่เรียกค่าเสียหายในยูทูบไม่เป็นความจริง โดยบอกว่าทางเราเรียก 2 เคส คือนางชูและนางจุฑาทิพย์ 3 ล้านบาท แต่ข้อเท็จจริงไม่ใช่แบบนั้น ทำให้มีคนแสดงความคิดเห็นต่างๆ นานา ด่าครอบครัวตนว่าจะนำเงินไปสร้างบ้านสร้างตัว จึงขอให้สื่อที่ลงผิดๆ ควรกรองข่าวให้ดีก่อนที่จะลง” นายมนตรี กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เบื้องต้นทางออแกไนซ์จัดงานดังกล่าวจะรับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดเหตุขึ้นทั้งหมดตามความเหมาะสมต่อไป