นายจอห์น เดวิด เลิฟล็อค รองประธานฝ่ายวิจัย ของ การ์ทเนอร์ บริษัทวิจัยและให้คำปรึกษาชั้นนำของโลก เปิดเผยว่า การ์ทเนอร์ ได้คาดการณ์มูลค่าการใช้จ่ายไอทีของประเทศไทย ในปี 67 มูลค่า จะสูงทะลุ 1 ล้านล้านบาท เป็นครั้งแรก เพิ่มขึ้น 5.8% จากปี 66 โดยกลุ่มซอฟต์แวร์จะมีมูลค่าการใช้จ่ายเติบโตสูงสุด และคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 15.9% ส่วนมูลค่าการใช้จ่ายไอทีทั่วโลกในปีนี้จะเติบโตเพิ่ม 6.8% จากปี 66 คิดเป็นมูลค่ารวม 5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากไตรมาสก่อนที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเติบโต 8% แม้ เจเนอเรทีฟ เอไอ (เจน เอไอ) จะได้รับความนิยมอย่างมาก ในปี 66 แต่ระยะสั้นยังไม่ส่งผลต่อการเติบโตของยอดการใช้จ่ายไอทีอย่างมีนัยสำคัญ
โดยบริการด้านไอทีกลายเป็นกลุ่มที่มียอดใช้จ่ายสูงสุดในปีนี้ ซึ่งจะยังเติบโตต่อเนื่องในปี 67 และมียอดใช้จ่ายสูงที่สุดเป็นครั้งแรก คาดว่าในปี 67 จะเติบโตขึ้น 8.7% มีมูลค่าแตะ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยปัจจัยส่วนใหญ่เกิดจากการที่องค์กรมุ่งลงทุนเพิ่มประสิทธิภาพให้กับองค์กรและในโปรเจกต์ต่างๆ ซึ่งการลงทุนลักษณะนี้จะมีความสำคัญยิ่ง ในช่วงที่เศรษฐกิจไม่แน่นอน

“ในขณะที่ เจนเอไอ จะเปลี่ยนทุกอย่างไป แต่ยังไม่ส่งผลกระทบไปถึงการใช้จ่ายไอทีอย่างมีนัยสำคัญ เช่นเดียวกับเทคโนโลยี ไอโอที หรือ บล็อกเชน รวมถึงเทรนด์สำคัญอื่น ๆ ที่เราพบมา ซึ่งในปีนี้จะเป็นปีที่องค์กรหันมาลงทุนเพื่อวางแผนและเรียนรู้วิธีใช้ เจนเอไอ อย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม ปริมาณการใช้จ่ายไอทีจะยังเป็นการขับเคลื่อนผ่านปัจจัยเดิมอยู่ อาทิ ความสามารถด้านการทำกำไร ด้านแรงงาน เป็นต้น”
นายจอห์น กล่าวต่อว่า อัตราการใช้งานของผู้บริโภคในกลุ่มอุปกรณ์และกลุ่มบริการด้านการสื่อสารอยู่ในเกณฑ์ที่สูงมากว่า 10 ปี โดยยอดการใช้จ่ายของผู้บริโภคได้รับแรงหนุนมาจากการเปลี่ยนแปลงด้านราคาและวงจรการเปลี่ยนเครื่องใหม่ เพื่อทดแทนเป็นหลัก ซึ่งไม่มีพื้นที่การเติบโต จึงถูกแซงหน้าด้วยกลุ่มซอฟต์แวร์และบริการอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นอกจากนี้ องค์กรต่างๆ ยังคงมุ่งแสวงหาการใช้เทคโนโลยีมากขึ้น ฝ่ายไอทีได้ย้ายจากการทำงานส่วนหลังบ้าน มาอยู่ส่วนหน้าขององค์กร และการใช้จ่ายด้านไอทีขององค์กรจะมีอย่างต่อเนื่องไม่สิ้นสุด จนกว่าจะถึงขีดจำกัดว่าเทคโนโลยีจะสามารถนำไปใช้ในองค์กรได้อย่างไรและส่วนไหนบ้าง

นอกจากนี้ความเหนื่อยล้าของ CIO จากบทบาทและเนื้องานเพิ่มขึ้นส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายไอที ภาพรวมการเติบโตของปริมาณการใช้จ่ายไอทีปี 2566 อยู่ที่ 3.3% เพิ่มขึ้นเพียง 0.3% จากปี 2565 สาเหตุหลักมาจากบทบาทและภาระการทำงานที่มากขึ้นของ CIO จนเกิดความเหนื่อยล้า อย่างไรก็ตามคาดว่าโมเมนตัมนี้จะกลับมาฟื้นตัวในปี 2567 โดยเพิ่มขึ้น 6.8%
แม้คาดว่าจะมีแรงหนุนที่ช่วยให้การใช้จ่ายไอทีกลับมาฟื้นตัวในปีนี้ แต่ด้วยสภาพแวดล้อมของการใช้จ่ายที่เปิดกว้างยังมีข้อจำกัดเล็กๆ น้อยๆ จากการเปลี่ยนแปลงที่ก่อให้เกิดความอ่อนล้า ซึ่งปัจจัยนี้อาจแสดงออกมาเป็นการต่อต้านการเปลี่ยนแปลง โดย CIO เริ่มลังเลที่จะเซ็นสัญญาใหม่ๆ หรือให้คำมั่นในโครงการระยะยาว หรือเปิดรับพันธมิตรเทคโนโลยีรายใหม่ สำหรับโครงการใหม่ที่กำลังจะเปิดตัว บรรดา CIO ทั้งหลายตั้งเป้าลดระดับความเสี่ยงและได้ผลลัพธ์ที่แน่นอนมากขึ้น