ฮัลโหลๆ แฟนๆ ที่รักๆ ของอิชั้น “ชาวบ้าน 1/4” ผู้ขนข้าวขนของมาจับจองห้องใหม่ในบ้านหลังนี้ ก็ขอทักทายคุณๆ ที่รักของบ้านนี้ด้วยนะคะ พอดีอิชั้นย้ายบ้านมาใหม่ เลยขอมาพึ่งใบบุญบ้าน 1/4 ด้วย อิชั้นอยู่บ้าน 1/4 แยก 8 ค่ะ ถ้ารักอิชั้นโปรดปักหมุดไว้ในใจและเชียร์อิชั้นเยอะๆ นะเคอะ หุหุ

อิชั้นมาประเดิมบ้านใหม่ทั้งที ก็ขอเปิดด้วยความปังของนิทานเรื่องหนึ่งดีไหม เอาแบบไม่เครียด แต่ใครอ่านแล้วคิดตาม จะว่าไปวงการบันเทิงจริงๆ มันก็ไม่ได้กว้างใหญ่ไพศาลใดๆ หรอกค่ะ ออกจะแคบเสียด้วยซ้ำ เดินไปเดินมาก็ชนกันเองแล้ว ดังนั้นเรื่องของดาราจึงไม่ได้เป็นเรื่องที่ไม่ได้ยินกันใดๆ เลย

วันนี้เลยขอเสนอ “เรื่องราวลับในวงการบันเทิง” สักหน่อย ณ ดินแดนอันสวยงาม ในวงการบันเทิงอันแสนล่อตาล่อใจ ผู้คนในดินแดนแห่งนี้ พากัน “ช่วงชิงความเป็นหนึ่ง” เพื่อความอยู่รอดในวงการกันอย่างดุดัน บางคนแสดงออกถึงการช่วงชิง บางคนเพลาๆ แต่เก็บมีดไว้แทงกันด้านหลัง

สังคมบนดินแดนอันสวยงามนี้ ไม่ต่างสังคมของคนทั่วไป ติดที่ “มีสปอตไลต์ส่องชัด” บางทีเลยทำให้คนที่อยู่มุมมืดมองมาได้เห็นกันอย่างชัดเจน แต่เพราะแสงจากสปอตไลต์อันยิ่งใหญ่ เมื่อใดที่ถาโถมและส่องมาที่คนๆ หนึ่งในดินแดนแห่งนี้

ย่อมทำให้เขาหลงระเริง หลงคิด หลงฝัน หลงมัวเมาโดยไม่ได้มองเลยว่า ความจริงมันคือจุดหนึ่งของวงการบันเทิง หากใช้ความรู้ความสามารถเข้ามา ผ่านไป 10-20 ปี ก็ยังคงมีแสงส่องถึงเสมอ แต่ถ้าวงการบันเทิงที่ใฝ่ฝัน และดันเข้ามาแบบฟลุกๆ เข้ามาแบบไม่เคยสำนึกบุญคุณใคร ไม่นานหรอก แสงมันก็ริบหรี่และพาให้คนในมุมมืด มองเห็นมุมมืดของคนๆ นั้นไปด้วย

แต่วงการบันเทิงดีนะ ทำดีเห็นเลยว่า “คนเข้าหา สังคมเข้าหา คนอวย เพื่อนกิน เพื่อนเที่ยวพุ่งหาแบบถล่มทลาย แต่พอวันอับแสง แม้แต่คนจะยื่นมือมาช่วย ก็ยังไม่มี” มันเป็นสัจธรรม

แต่รู้อะไรไหม วงการบันเทิงมันมีทั้งคนเก่งมาก เก่งน้อย เก่งที่สุด และซูเปอร์เก่งรวมอยู่ในนั้นด้วย วันหนึ่งที่คุณ ที่เป็นคนไม่ได้เก่งอะไร ไม่ได้เลอเลิศอะไร “พอถูกสังคมกระแสอวย ถูกความหลงระเริงครอบงำ” ก็ย่อมเป็นธรรมดาที่จะรู้สึกว่า “ข้าเจ๋งข้าเก่ง”

แต่ไม่รู้เขาจะรู้ไหมนะว่า คนที่อวยเขาตอนเขามีแสงอ่ะ น้อยคนจะพูดความจริง เขาก็พูดให้สบายใจไปแบบนั้นแหละ และก็เอามาด่าลับหลัง

คงจะมีแต่คนหลงแสงสีนี่แหละ ที่หน้ามืดตามัวคิดว่าเขารัก เขาชื่นชมและ “เหยียบคนอื่นเพื่อเคลมตัวเองให้ดูสูงขึ้น” แต่มันไม่มีคนที่อยากให้คุณสูงขึ้นหรอก มีแต่เขาหลอก และคนที่หลงสีก็เชื่อว่าข้าเก่งข้าเริ่ด จนวันหนึ่ง “เจอรุ่นใหญ่มาก ดังมาก และแฟนๆเยอะมากเตือนว่า เรื่องเก่งไม่เก่งให้สังคมพูด อย่าพูดเอง มันเหมือน สุนัขยกหางตัวเอง” งานนี้เลยสั่นเป็นเจ้าเข้า

ทำให้รู้เลยว่า “แสง” จากวงการบันเทิงนี่มันอันตรายนะ “พอส่องน้อยคนก็โหยหา แต่พอส่องมากก็ทำให้ผยองลำพองใจ” น่าสงสารนัก แค่นี้ก็ไม่รู้คำพูดเตือนใจ

“เก่งได้ แต่อย่าเด่น จะเป็นภัย อวดได้แต่อย่ามาก คนจะเกลียด ดังได้แต่อย่าจองหอง คนจะสาป (ส่ง)”

ท่องเอาไว้ให้ขึ้นใจ ให้สังคมอวยยศ ชมและปรบมือ อย่ายกหางตัวเองว่าเก่ง คนเขาจะสมเพช มันอายตอนเขาพูดลับหลังและกระจายไปทั่ว คนเขาแอบหัวเราะเพราะเธอมันหลงแสงสี

ฝากไว้ให้คิด…