เมื่อเวลา 08.15 น. วันที่ 3 ก.พ. ร.ต.อ.โทติวิทย์ แสงจันโท รองสารวัตรสอบสวน สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนถูกยิงเสียชีวิตภายในร่องทางเดินป่าละเมาะสวนยางพาราบ้านปูโปะ ซึ่งเป็นบ้านย่อยของบ้านปลายนา หมู่ 2 ต.รือเสาะออก จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่ ที่เกิดเหตุพบศพผู้เสียชีวิตนอนจมกองเลือดอยู่ในร่องทางเดิน ทราบชื่อคือ นายแวอาลีคอปเตอร์ วาจิ อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100/17 หมู่ 2 ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธสงคราม เอ็ม16 และอาก้า ที่บริเวณลำตัวและใบหน้าพรุน และห่างจากศพผู้เสียชีวิต มี จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีน้ำเงิน ทะเบียน กธข 457 ปัตตานี ล้มตะแคงอยู่ และถูกกระสุนปืนของคนร้ายเป็นรูจำนวนหลายแห่ง
จากการตรวจสอบบริเวณริมป่าละเมาะในสวนยางพาราในรัศมี 10 เมตร เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนของคนร้าย จำนวน 3 จุดใหญ่ ซึ่งแต่ละจุดห่างกันประมาณ 5 เมตร โดย 2 จุดแรก พบปลอกกระสุนปืนเอ็ม16 จำนวน 15 ปลอก และจุดที่ 3 พบปลอกกระสุนปืน อาก้า จำนวน 8 ปลอก รวมทั้งสิ้น 23 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนทราบว่า ในเวลา 05.30 น. หลังจากที่นายแวฮาลีคอปเตอร์ ประกอบพิธีละหมาดแล้วเสร็จ ได้ขี่ จยย. ออกจากบ้านตามลำพังเพื่อเดินทางไปกรีดยางพาราที่สวนตามปกติทุกวัน หลังจากกรีดยางแล้วเสร็จ ได้ขี่ จยย. เพื่อกลับบ้านพัก ถึงที่เกิดเหตุ ได้มีคนร้ายจำนวนไม่ต่ำกว่า 3 คน แอบซุ่มอยู่ในบริเวณริมป่าละเมาะในสวนยางพารา คนร้ายที่ดักซุ่มอยู่ทั้ง 3 จุด ได้ใช้อาวุธปืนสงคราม เอ็ม16 และอาก้า จำนวน 3 กระบอก ยิงใส่นายแวอาลีคอปเตอร์ จำนวน 1 ชุดใหญ่ รวม 23 นัด เมื่อถูกกระสุนปืน จยย. ได้เสียหลักล้มคว่ำ ทำให้นายแวอาลีคอปเตอร์ เสียชีวิตคาที่ แล้วกลุ่มคนร้ายได้อาศัยความชำนาญพื้นที่หลบหนีไป จนกระทั่งชาวบ้านที่กำลังกรีดยางในบริเวณดังกล่าวได้ยินเสียงปืน จึงได้เดินมาดูพบมีคนถูกยิงเสียชีวิต จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบดังกล่าว
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่คาดว่าเป็นฝีมือการกระทำกลุ่มสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรง ที่หลังจากนายแวอาลีคอปเตอร์ ได้กลับเข้าสู่การรายงานตัวตามโครงการพาคนกลับบ้าน มีเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงให้การดูแลอยู่แบบห่างๆ กลุ่มสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรงจึงได้ลอบดักสังหาร เพื่อเป็นการข่มขู่ไม่ให้สมาชิกแนวร่วมที่กำลังตัดสินใจกลับใจ มาให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ กระทำเป็นแบบอย่างนายแวอาลีคอปเตอร์
ส่วนประวัติ นายแวอาลีคอปเตอร์ วาจิ หรือ เจ๊ะอาลี อดีตแกนนำบีอาร์เอ็น ซึ่งเป็นผู้ต้องหาปล้นปืน กองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ หรือค่ายปิเหล็ง อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2547 เจ้าของรางวัลนำจับในวงเงิน 1 ล้านบาท เป็นหนึ่งในบุคคลที่มีโอกาสเข้าร่วมโครงการพาคนกลับบ้านเมื่อวันที่ 11 ก.ย. ปี 2555 สมัยที่ พล.ท.อุดมชัย ธรรมาสาโรรัชต์ เป็นอดีตแม่ทัพภาคที่ 4 หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปอยู่ที่บ้านญาติ แต่ทราบข่าวว่ามีเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงติดตามตัว จึงตัดสินใจหลบหนีไปอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย มีความเป็นอยู่ที่ลำบาก ต้องหาเลี้ยงชีพด้วยการรับจ้างกรีดยาง ในฐานะแรงงานผิดกฎหมาย ไม่สามารถไปไหนมาไหนได้ เหตุผลหลักที่หันหลังให้กลุ่มขบวนการมาเข้าร่วมโครงการพาคนกลับบ้านเป็นเพราะลูก ช่วงแรกที่กลับมาอยู่บ้าน ต้องอยู่อย่างหวาดระแวงทั้งฝั่งเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงและฝั่งกลุ่มขบวนการ ต้องใช้เวลานาน กว่าจะปรับสภาพจิตใจให้อยู่ในภาวะปกติได้