เมื่อวันที่ 5 ก.พ. เวลา 10.40 น. องค์การนิรโทษกรรมสากล หรือแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย และเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน มารวมตัวกันที่แยกสวนมิสกวัน ถนนพิษณุโลก ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นรายชื่อประชาชน 7,301 รายชื่อ พร้อมหนังสือข้อเรียกร้องถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้ยุติการดำเนินคดีกับนายอานนท์ นำภา ผู้ต้องหาในคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และเป็นนักกิจกรรมทางการเมือง โดยผู้ที่มาร่วมชุมนุมบางส่วน ได้สวมชุดแฮร์รี่ พอตเตอร์ และถือไม้กายสิทธิ์ ซึ่งเป็นชุดเช่นเดียวกับที่นายอานนท์ ใส่ปราศรัยในการชุมนุมเสกคาถาผู้พิทักษ์ปกป้องประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2563

ทั้งนี้ ขณะที่กลุ่มดังกล่าวกำลังจะเคลื่อนขบวนไปยื่นหนังสือที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล ภายในสำนักงาน ก.พ. เดิม ถนนพิษณุโลก ตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดกั้นถนน เพราะป้องกันไม่ให้มีการเผชิญหน้ากับเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ (คปท.) และศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) ที่มารวมตัวบริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ถนนพิษณุโลก และยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านทางนายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้คัดค้านคำร้องของกลุ่มแอมเนสตี้ฯ ที่ต้องการให้มีการปล่อยตัวนายอานนท์ จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้กลุ่มแอมเนสตี้ฯ ที่นำโดยนางปิยนุช โคตรสาร ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ฯ ได้ยื่นหนังสือข้อเรียกร้องผ่านทางนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ที่แยกสวนมิสกวัน

จากนั้น นางปิยนุช กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้รัฐบาลปล่อยตัวและยกเลิกข้อกล่าวหาทั้งหมดกับนายอานนท์และนักกิจกรรมคนอื่นๆ รวมถึงขอให้รัฐบาลแก้ไขหรือยกเลิกกฎหมายที่ถูกใช้เพื่อจำกัดสิทธิมีเสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุมโดยสงบ เพื่อประกันว่าประเทศไทยจะปฏิบัติตามพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศของตน ทั้งนี้ 4 ปีที่ผ่านมา พบว่าเกิดการดำเนินคดีกับนักกิจกรรมและผู้ที่ออกมาใช้สิทธิในเสรีภาพการแสดงออก และการชุมนุมประท้วงโดยสงบ โดยปัจจุบันพบตัวเลขผู้ถูกละเมิดสิทธิเรื่องนี้มากกว่า 1,938 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีเด็กถูกดำเนินคดีอย่างน้อย 286 คน ทำให้เห็นถึงความบกพร่องในหน้าที่ของรัฐบาลไทย เพราะตามพันธกรณีกฎหมายระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน กำหนดให้รัฐบาลไทยต้องเคารพ คุ้มครอง และส่งเสริมสิทธิมนุษยชนที่ทุกคนควรได้มีเสรีภาพในการแสดงออก และการชุมนุมประท้วงโดยสงบ

ด้าน นายสมคิด กล่าวว่า จะนำหนังสือดังกล่าวส่งให้นายกฯ และรมว.ยุติธรรม เพื่อพิจารณา รวมถึงจะส่งไปยังคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม สภาผู้แทนราษฎร ที่จะมีการประชุมนัดแรกวันที่ 8 ก.พ. นี้ เพื่อพิจารณาตามข้อเรียกร้องดังกล่าวต่อไป