สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงอิสลามาบัด ประเทศปากีสถาน เมื่อวันที่ 10 ก.พ. เกี่ยวกับความคืบหน้าหลังการเลือกตั้งทั่วไปของปากีสถานผ่านพ้นไป เมื่อวันที่ 8 ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่ทั้ง 336 ที่นั่ง ปรากฏว่า พรรคสันนิบาตมุสลิมปากีสถาน-นาวาซ (พีเอ็มแอล-เอ็น) ของอดีตนายกรัฐมนตรีนาวาซ ชารีฟ ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาแล้ว 53 ที่นั่ง


ขณะที่ผู้สมัครอิสระได้รับการเลือกตั้งเข้ามาแล้ว 99 ที่นั่ง ในจำนวนนี้อย่างน้อย 88 ที่นั่ง มีความเชื่อมโยงกับพรรคเตห์รีค-อี-อินซาฟ (พีทีไอ) ของนายอิมราน ข่าน อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกแบนจากการเลือกตั้งครั้งนี้ ด้านพรรคการเมืองขนาดกลางและเล็ก ได้รับการเลือกตั้งรวมกันอย่างน้อย 27 ที่นั่ง

โปสเตอร์หาเสียงของอดีตนายกรัฐมนตรีนาวาซ ชารีฟ ติดอยู่ที่อาคารแห่งหนึ่ง ในเมืองลาฮอร์ ทางตะวันออกของปากีสถาน


หากสมาชิกอิสระซึ่งได้รับความสนับสนุนจากพรรคพีทีไอรวมตัวกับพรรคการเมืองขนาดกลางและเล็ก การจับมือเป็นพันธมิตรที่อาจเกิดขึ้น จะช่วยให้สามารถคว้าสัดส่วนที่นั่งแบบปาร์ตี้ลิสต์ ซึ่งจะเป็นการจัดสรรตามผลงานของแต่ละพรรคจากการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยมีการแบ่งโควตาให้แก่ผู้หญิงและผู้แทนทางศาสนาด้วย


อย่างไรก็ตาม ชารีฟยังคงยืนกรานว่า พรรคพีเอ็มแอล-เอ็น คือพรรคการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้งมากที่สุดในครั้งนี้ และเรียกร้องพรรคการเมืองขนาดรองลงมาให้ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล

ทีมงานหาเสียงของนายอิมราน ข่าน อดีตนายกรัฐมนตรีปากีสถาน ที่สำนักงานในกรุงอิสลามาบัด


ด้านกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐและสหราชอาณาจักรแสดงความวิตกกังวล เกี่ยวกับบรรยากาศการเลือกตั้งในปากีสถาน ซึ่งมีการระงับสัญญาณโทรศัพท์มือถือตลอดวันเลือกตั้ง และเรียกร้องให้มีการตรวจสอบข้อครหาเกี่ยวกับการทุจริจ ขณะที่กระทรวงมหาดไทยปากีสถานให้เหตุผล “เกี่ยวกับความมั่นคง” ในการระงับสัญญาณโทรศัพท์มือถือ


อนึ่ง การเลือกตั้งทั่วไปของปากีสถานครั้งนี้เหมือนเป็น “ภาพซ้ำรอย” การเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี 2561 ซึ่งครั้งนั้นศาลตัดสิทธิชารีฟจากการลงสมัคร เนื่องจากเป็นบุคคลต้องคดีอาญา และข่านนำพรรคพีทีไอชนะการเลือกตั้ง ส่วนการเลือกตั้งครั้งนี้ ข่านถูกตัดสิทธิทางการเมือง และศาลพิพากษาให้รับโทษจำคุกนานหลายสิบปี จากความผิดหลายคดี ที่ฝ่ายสนับสนุนมองว่า “เป็นข้อกล่าวหาทางการเมือง”.

เครดิตภาพ : AFP