กรณีพิพาท “จุดหมุดนิรนาม ส.ป.ก.” ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หลังพบมีการบุกรุกแผ้วถางป่าเพื่อทำการเกษตร โดยพบว่า มีหลักหมุด ส.ป.ก. ปักอยู่ในเขตพื้นที่ดังกล่าว ต่อมาได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและสอบถามกลับไปยังสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา ที่ดำเนินการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 แต่ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน
สำนึกหายไปไหน? ‘ชัยวัฒน์’ เปิดภาพแฉยับปมหมุดนิรนามส.ป.ก. รุกเขาใหญ่กว่า 2.9 พันไร่
จากนั้น นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ ออกมายืนยันกรณีหมุดนิรนาม ส.ป.ก. รุกเขาใหญ่ ว่า เป็นขบวนการยึดถือครอบครองที่ดินของรัฐโดยเจตนา หลังทำรายงานชี้แจง พร้อมเปิดภาพหลักฐานมีการบุกรุกผืนป่ามรดกโลกกว่า 2,933 ไร่ และจัดทำบันทึกส่ง ตำรวจ สภ.หมูสี จ.นครราชสีมา เตรียมดำเนินคดี 3 ข้าราชการออกเอกสาร ส.ป.ก.4-01 โดยมิชอบในเขตป่าอนุรักษ์
งามไส้! เปิดโปง 3 เจ้าหน้าที่รัฐเอี่ยวหมุดนิรนาม ส.ป.ก. เอื้อนายทุนรุกป่าเขาใหญ่
อย่างไรก็ตาม ภายหลังเกิดข้อพิพาทออกไป ทำให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ถึงกับต้องนั่งเฮลิคอปเตอร์ ลงพื้นที่เคลียร์ปัญหาเป็นการด่วน พิสูจน์พิรุธออกโฉนด ส.ป.ก. ในป่าเขาใหญ่ จ่อขึ้นรูปแปลง 2,900 ไร่ ก่อนได้ข้อสรุปเบื้องต้น เตรียมตั้งกรรมการร่วม 2 กระทรวง ทั้ง กระทรวงเกษตรฯ ที่ดูแล ส.ป.ก. และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ดูแลกรมอุทยานฯ เพื่อตรวจสอบความโปร่งใส นั้น
ปกป้องผืนป่ามรดกโลก! เครือข่ายอนุรักษ์จี้ ‘ถอนหมุด-เบรกโฉนดส.ป.ก.’ รุกเขาใหญ่ด่วน
ล่าสุด เมื่อวันที่ 17 ก.พ. 67 มีรายงานว่าเรื่องดังกล่าว นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รับทราบเรื่อง และไม่สบายใจเป็นอย่างมาก อีกทั้งไม่อยากสูญเสียผืนป่ามรดกโลก หลังโฉนด ส.ป.ก. บินในป่า แถมยังตีแปลงอีก 2,993 ไร่ อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 18 ก.พ. นี้ กรมอุทยานฯ ประสานกรมแผนที่ทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจรังวัดที่ดินแปลงดังกล่าวแล้ว ซึ่งเป็นไปตามมติของโครงการ One Map ในการแก้ไขที่ดินทับซ้อนระหว่างรัฐกับรัฐ ที่ยังไม่ได้ข้อยุติ
มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้ กรมอุทยานฯ เข้าตรวจสอบพบว่า มีการบุกรุกในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่อย่างชัดเจน และไม่พบการทำประโยชน์ ดังนั้น จึงต้องตรวจสอบออกการโฉนดที่ดิน ส.ป.ก. ว่าได้มาโดยชอบหรือไม่ ส่วนประเด็นการรังวัดแนวเขตที่ดิน 2,933 ไร่ต้องชะลอไปก่อน โดยเมื่อวันที่ 13 ก.พ. 67 เจ้าหน้าที่ชุดพญาเสือ เข้ารื้อถอนหมุดแนวเขตสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา จำนวน 27 หมุด ในเขตพื้นที่บ้านเหวปลากั้ง ต.หมูสี อ.ปากช่อง พร้อมรื้อป้ายประกาศการแสดงสิทธิในที่ดิน ที่ถูกนำมาติดไว้บริเวณที่ดิน 3 ไร่ ที่มีการแผ้วถาง
ทั้งนี้ พบว่าที่ดินที่มีการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 จำนวน 15 ไร่ เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีการตีรูปแปลงออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 และมีชื่อผู้ครอบทุกแปลง จึงตั้งข้อสังเกตว่า มีขบวนการพยายามนำที่อุทยานไปออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. เนื่องจากพบพิรุธในขั้นตอนการออกเอกสารสิทธิที่ความเร่งรีบ
สำหรับการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. ในที่ดินแปลง 15 ไร่ ที่มีปัญหาพบว่ามีการดำเนินการตั้งแต่กลางปี 2566 และปลายเดือน ต.ค. เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตรวจพบหลักหมุด ส.ป.ก. และแจ้งให้รื้อถอน แต่ในเดือน พ.ย. 66 ส.ป.ก.นครราชสีมา ออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 ให้กับผู้ครอบครอง โดยไม่มีการตรวจสอบแนวเขตร่วมกัน และนำไปสู่การจับกุมผู้ครอบครอง หลังนำผู้นำชุมชนแจ้งต่ออุทยานฯ ว่ามีการขอเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนด แต่ผู้ครอบครองไม่ใช่คนในชุมชน
ด้าน นายชัยวัฒน์ ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดใจว่า ยอมรับไม่พอใจอย่างมาก จนต้องพูดออกมากลางประชุมระหว่างกรมอุทยานฯ สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา (ส.ป.ก.โคราช) ที่มีรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธาน หลังจากพบว่ามีหลักหมุดโฉนด ส.ป.ก. ไปวางในเขตป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งกรมอุทยานฯ ดำเนินคดีไปแล้วเมื่อเดือน ม.ค. 67 ที่ผ่านมา 73 ไร่ และเมื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และสอบถามกลับไปยัง ส.ป.ก.นครราชสีมา ที่ดำเนินการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 แต่ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน
