กระแสการถกเถียงและภารกิจท้าทายต่าง ๆ เกี่ยวกับการดื่มน้ำและปริมาณการดื่มที่ดีต่อสุขภาพบนแพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง “ติ๊กต็อก” ทำให้หัวข้อนี้อยู่ในความสนใจของชาวโซเชียลแทบจะตลอดเวลา แต่คำตอบที่แน่ชัดกลับยังไม่ปรากฏ

คุณหมอ เบเนดิคท์ ไอเฟดี นายแพทย์สายเวชศาสตร์ครอบครัวและการกีฬาจากโรงพยาบาลเมโมเรียล เฮอร์มันน์ประจำเมืองฮุสตัน รัฐเท็กซัสให้ความเห็นว่า มีคนสับสนเกี่ยวกับปริมาณน้ำดื่มที่เหมาะสมสำหรับร่างกายในแต่ละวัน ซึ่งเกิดจากการที่เราไม่มีแนวทางหรือคำแนะนำที่เป็นมาตรฐานสากลเหมือนกิจกรรมอื่น ๆ เช่น ระยะเวลาของการนอนหลับหรือระยะเวลาการออกกำลังกายที่ดีต่อสุขภาพ

นอกจากนี้คุณหมอไอเฟดียังมองว่า การดื่มน้ำวันละ 8 แก้วหรือเกือบ 2 ลิตรต่อวันจึงจะดีต่อสุขภาพนั้นเป็นแค่ “ความเชื่อ” แม้ว่าจะเป็นผลดีจริง ๆ สำหรับบางคน

ด้านคุณหมอคอรี ฟิเชอร์ แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวจากคลีฟแลนด์คลินิก ก็มองว่าไม่มีสูตรตายตัวเรื่องปริมาณน้ำดื่ม แต่ละคนก็มีปริมาณการดื่มน้ำในแต่ละวันที่เหมาะสมเฉพาะของตัวเอง 

ด้วยเหตุนี้ การมองหาสัญญาณจากร่างกายที่บ่งชี้ว่าร่างกายกำลังขาดน้ำหรือไม่จึงเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยบอกเราได้ว่าเราดื่มน้ำเพียงพอหรือยัง

วิธีพื้นฐานที่สุดที่หมอส่วนใหญ่เห็นด้วยก็คือการสังเกตสีของปัสสาวะ ถ้าหากปัสสาวะมีสีเหลืองจาง ๆ หรือใส ไม่มีสี แสดงว่าร่างกายได้รับน้ำเพียงพอแล้ว ถ้าหากปัสสาวะมีสีเข้มหรือมีลักษณะขุ่น มีกลิ่นฉุน แสดงว่าต้องดื่มน้ำให้มากขึ้น

จำนวนครั้งที่ถ่ายปัสสาวะ ก็เป็นตัวช่วยบ่งชี้ได้เช่นกัน ถ้าหากเราดื่มน้ำได้มากพอระหว่างวัน เราจะถ่ายปัสสาวะทุก ๆ 2-3 ชม. ถือว่าเป็นเรื่องปกติ

นอกจากนี้ยังมีสัญญาณบ่งชี้อื่น ๆ อีกว่าร่างกายของเราได้รับน้ำเพียงพอแล้ว ได้แก่

– ผิวหนังเต่งตึง มีความยืดหยุ่นดี ไม่เหี่ยว

– มีกำลังวังชาดี ไม่เหนื่อยง่าย ฟื้นตัวได้ดีหลังจากทำกิจกรรมที่ต้องออกแรงเยอะ

– ค่าความดันโลหิตอยู่ในระดับปกติ

– อัตราการเต้นของหัวใจอยู่ในระดับปกติ

ขณะเดียวกันก็สัญญาณที่บ่งบอกอาการตรงกันข้ามว่าร่างกายกำลังได้รับน้ำมากหรือน้อยเกินไป คุณหมอฟิเชอร์แนะนำว่าเราควร “รับฟัง” ร่างกายว่าถึงเวลาที่เราต้องดื่มน้ำหรือยัง 

สำหรับอาการที่บ่งชี้ว่าร่างกายกำลังขาดน้ำนั้น ได้แก่

– ปวดศีรษะ

– หัวใจเต้นเร็วขึ้น

– มีอาการเกร็งที่กล้ามเนื้อหรือเป็นตะคริว

– ท้องผูก

นอกจากนี้คุณหมอฟิเชอร์ยังเตือนว่าอย่าตามกระแสโซเชียลที่ท้าทายให้ดื่มน้ำมาก ๆ เพราะการดื่มน้ำมากเกินไปก็อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ เนื่องจากน้ำจะเข้าไปเจือจางแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะโซเดียม ซึ่งหากเลือดของเรามีระดับโซเดียมต่ำเกินไป หรือเกิดภาวะโซเดียมในเลือดต่ำ ก็จะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ มึนงง อ่อนแรง หรืออาจถึงขั้นร้ายแรงจนเกิดอาการชัก หมดสติและทำให้เสียชีวิตได้

ที่มา : parade.com

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES