กรณีพิพาท “จุดหมุดนิรนาม ส.ป.ก.” ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หลังพบมีการบุกรุกแผ้วถางป่าเพื่อทำการเกษตร โดยพบว่า มีหลักหมุด ส.ป.ก. ปักอยู่ในเขตพื้นที่ดังกล่าว ต่อมาได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและสอบถามกลับไปยังสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา ที่ดำเนินการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 แต่ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน

จากนั้น นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ ออกมายืนยันกรณีหมุดนิรนาม ส.ป.ก. รุกเขาใหญ่ ว่าเป็นขบวนการยึดถือครอบครองที่ดินของรัฐโดยเจตนา หลังทำรายงานชี้แจง พร้อมเปิดภาพหลักฐานมีการบุกรุกผืนป่ามรดกโลกกว่า 2,933 ไร่ และจัดทำบันทึกส่งตำรวจ สภ.หมูสี จ.นครราชสีมา เตรียมดำเนินคดี 3 ข้าราชการ ออกเอกสาร ส.ป.ก.4-01 โดยมิชอบในเขตป่าอนุรักษ์

อย่างไรก็ตาม ภายหลังเกิดข้อพิพาทออกไป ทำให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ถึงกับต้องนั่งเฮลิคอปเตอร์ ลงพื้นที่เคลียร์ปัญหาเป็นการด่วน พิสูจน์พิรุธออกโฉนด ส.ป.ก. ในป่าเขาใหญ่ จ่อขึ้นรูปแปลง 2,900 ไร่ ก่อนได้ข้อสรุปเบื้องต้นเตรียมตั้งกรรมการร่วม 2 กระทรวง ทั้งกระทรวงเกษตรฯ ที่ดูแล ส.ป.ก. และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ดูแลกรมอุทยานฯ เพื่อตรวจสอบความโปร่งใส พร้อมได้ข้อสรุป ในวันที่ 18 ก.พ. 67 ได้ประสานกรมแผนที่ทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจรังวัดที่ดินแปลงดังกล่าวแล้ว ซึ่งเป็นไปตามมติของโครงการ One Map ในการแก้ไขที่ดินทับซ้อนระหว่างรัฐกับรัฐ ที่ยังไม่ได้ข้อยุติ นั้น

ล่าสุด กลุ่มเครือข่ายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเขาใหญ่ ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกลุ่มเครือข่ายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเขาใหญ่ ผู้ประกอบการท่องเที่ยว ร้านอาหาร ที่พัก และเครือข่ายเด็กเยาวชน เนื่องจากสังคมมีข้อสงสัยในการกระทำดังกล่าว และมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกำลังสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการบุกรุกพื้นที่บริเวณในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อย่างอุกอาจ

โดยมิเกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง ประกอบกับเกรงว่าสิ่งที่เกิดขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อการเป็นมรดกโลกของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่นับวันจะมีปัญหาในหลายเรื่องทั้งการปลูกสร้างอาคาร ปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาการสร้างเขื่อน เป็นต้น

ด้วยเหตุนี้จึงขอเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่รับผิดชอบในเรื่องนี้ให้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวอย่างเร่งด่วน และเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชนว่าใครคือผู้อยู่เบื้องหลังการกระทำดังกล่าวนี้ให้ชัดเจน เพื่อให้เกิดความกระจ่าง และหากเกิดการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มที่เข้าไปบุกรุก รวมถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐต้องดำเนินการลงโทษอย่างเฉียบขาดรวดเร็วและเกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย

ต่อมาเวลา 14.00 น. ร้อยเอก รชฏ พิสิษฐบรรณกร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) และ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เดินทางมารับเอกสารแถลงการณ์ร่วมกลุ่มเครือข่ายอนุรักษ์ 21 องค์กร ถึง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ช่วยตรวจสอบกรณีพิพาทดังกล่าว เพื่อปกป้องผืนป่ามรดกโลกเขาใหญ่

ทั้งนี้ เครือข่ายที่ร่วมในครั้งนี้ ประกอบด้วย 1.วัดหมูสี 2.สมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่ 3.ชมรมผู้ประกอบการร้านอาหาร อ.ปากช่อง 4.กลุ่มอนุรักษ์สัตว์ป่าและสิ่งแวดล้อมเขาใหญ่ 5.ชมรมฮักเขาใหญ่ 6.กลุ่มไผ่หนาม 7.กลุ่มสื่อจิตอาสารักษ์ธรรมชาติ เขาใหญ่ 8.ชมรมอนุรักษ์ลำน้ำ มวกเหล็ก 9.กลุ่มเยาวชนเรารักษ์ปากช่อง 10.กลุ่มจิตอาสาเพื่อชุมชนและสังคม นครราชสีมา 11.ชมรมคนรักษ์สัตว์-ป่า 12.กลุ่มรักษ์เขาใหญ่ 13.กลุ่มเยาวชนต้นกล้านครนายก 14.กลุ่ม ฅ.คนทำทาง 15.กลุ่มใบไม้ 16.กลุ่มอาสาด้วยสองมือ 17.กลุ่มอนุรักษ์ช่วยเหลือสัตว์ป่า 18.กลุ่มรักษ์กระทิงเขาใหญ่ 19.กลุ่มขันอาสา 20.กลุ่มรักษ์คลองมะเดื่อ และ 21.วิสาหกิจชุมชนบ้านท่าช้าง.