นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยว่า จากการประชุมหารือร่วมกับกรมรถไฟ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ข้อสรุปเรื่องการเดินรถไฟระหว่างไทย-สปป.ลาว ในช่วงท่านาแล้ง-เวียงจันทน์ (คำสะหวาด) ระยะทาง 7.5 กิโลเมตร (กม.) ซึ่งเป็นส่วนต่อขยายของทางรถไฟสายหนองคาย-ท่านาแล้งว่า จะเริ่มเปิดให้บริการเดินรถในช่วงระหว่างวันที่ 13-20 พ.ค. 67 ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของทั้ง 2 ฝ่ายว่าจะเป็นวันใด ส่วนก่อนหน้านี้ที่มีแผนจะเปิดให้บริการในเดือน เม.ย. 67 จากการหารือร่วมกันอีกครั้ง พบว่า เดือน เม.ย. เป็นช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ของทั้งไทย และ สปป.ลาว ค่อนข้างยาว จึงขยับการให้บริการเป็นเดือน พ.ค. 67 แทน    

นายพิเชฐ กล่าวต่อว่า เบื้องต้นการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะขยายการเดินขบวนรถไฟในเส้นทางกรุงเทพฯ (สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์) จากเดิมถึงหนองคาย เปลี่ยนเป็นเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) สปป.ลาว โดยขณะนี้ รฟท. และกรมรถไฟ สปป.ลาว อยู่ระหว่างเร่งเตรียมความพร้อมร่วมกัน โดย รฟท. จะเข้าสำรวจตรวจสอบ และซ่อมแซมทางรถไฟของ สปป.ลาว โดยเฉพาะช่วงหนองคาย-ท่านาแล้ง ซึ่งใช้งานมานาน แต่ในส่วนของท่านาแล้ง-เวียงจันทน์ (คำสะหวาด) ไม่น่ามีปัญหาใด เพราะเป็นทางที่สร้างขึ้นใหม่ อย่างไรก็ตามในการตรวจสอบ หากพบว่าต้องซ่อมแซม จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 12 เม.ย. 67 จากนั้นจะฝึกซ้อมขับเคลื่อนรถไฟให้กับพนักงานขับรถไฟของ สปป.ลาว ในเส้นทางฝั่ง สปป.ลาว ต่อไป ซึ่งทุกอย่างต้องแล้วเสร็จภายในวันที่ 10 พ.ค. 67 ก่อนเปิดให้บริการประชาชน

ส่วนเรื่องการทำพิธีการตรวจคนเข้าเมือง สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางข้ามแดนจากประเทศไทยไปยังเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) สปป.ลาว หรือจาก สปป.ลาว มายังประเทศไทยนั้น ในระยะแรกนี้ ต้องประทับตราที่ จ.หนองคาย ประเทศไทย 1 ครั้ง และที่เวียงจันทน์ สปป.ลาว 1 ครั้ง ตามปกติไปก่อน ส่วนในอนาคตจะมีการประทับตราตรวจคนเข้าเมืองเพียงครั้งเดียวที่หนองคาย หรือที่เวียงจันทน์ สปป.ลาว หรือไม่นั้น ยังไม่ได้ข้อสรุป ต้องหารือในรายละเอียดเพิ่มเติมอีก

รายงานข่าวจาก รฟท. แจ้งว่า ในระยะแรกขบวนรถไฟที่จะให้บริการเส้นทาง กรุงเทพ-เวียงจันทน์ (คำสะหวาด) จะเริ่มวันละ 2 ขบวน (ไป-กลับ) โดยเป็นขบวนที่ 133 เส้นทาง กรุงเทพ-หนองคาย และขบวนที่ 134 หนองคาย-กรุงเทพ ระยะทาง 614 กม. ที่ให้บริการอยู่ในขณะนี้วันละ 2 ขบวน (ไป-กลับ) เป็นรถพัดลม รถเร็ว ประเภทนั่ง ชั้น 2 และชั้น 3 โดยขบวนที่ 133 ออกจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เวลา 21.25 น. ถึงหนองคาย เวลา 07.55 น. ส่วนขบวนที่ 134 ออกจากหนองคาย เวลา 18.50 น. ถึงสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เวลา 05.20 น. ค่าโดยสารชั้น2 ประมาณ 344 บาท ชั้น 3 ประมาณ 211 บาท หากเดินทางต่อจากหนองคาย-เวียงจันทน์ (คำสะหวาด) ระยะทาง 13 กม. จะใช้เวลาเพิ่มขึ้นประมาณ 20 นาที ค่าโดยสารเพิ่มประมาณ 60-70 บาท

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า นอกจากนี้จะมีขบวนท้องถิ่นให้บริการ ได้แก่ ขบวนที่ 481 เส้นทางหนองคาย-ท่านาแล้ง และขบวนที่ 482 ท่านาแล้ง-หนองคาย ที่ให้บริการอยู่วันละ 2 ขบวน (ไป-กลับ) ค่าโดยสาร 20 บาท เป็นรถพัดลม ประเภทนั่ง ชั้น 3 โดยขบวนที่ 481 ออกจากหนองคาย เวลา 07.30 น. ถึงท่านาแล้ง เวลา 07.45 น. และขบวนที่ 482 ออกจากท่านาแล้ง เวลา 10.00 น. ถึงหนองคาย เวลา 10.15 น. ทั้งนี้ จะขยายเส้นทางดังกล่าวเป็น สถานีอุดรธานี-หนองคาย-ท่านาแล้ง-เวียงจันทน์ (คำสะหวาด) คาดว่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการจำนวนมาก เนื่องจากขณะนี้ชาว สปป.ลาว นิยมเดินทางมาท่องเที่ยว และรักษาพยาบาลที่ จ.อุดรธานี ซึ่งการให้บริการทางรถไฟ จะเป็นอีกทางเลือกที่อำนวยความสะดวกในการเดินทางให้ประชาชน ปัจจุบันเส้นทางอุดรธานี-เวียงจันทน์ มีเพียงรถของบริษัทขนส่ง จำกัด (บขส.) ที่ให้บริการอยู่.