เมื่อบ่ายวันอังคารที่ผ่านมา ครอบครัวของเด็กหญิงวัย 7 ขวบ ผู้เคราะห์ร้าย ซึ่งเดินทางมาจากรัฐอินดีแอนา ได้ออกมาท่องเที่ยวพักผ่อนริมชายหาดลอเดอร์เดล-บาย-เดอะ-ซี ถนนเอลมาร์ เมืองฟอร์ต ลอเดอร์เดล รัฐแคลิฟอร์เนีย แต่กลับประสบเหตุร้ายอย่างไม่คาดฝัน ระหว่างที่เด็กหญิงและพี่ชายวัย 9 ขวบ กำลังเล่นสนุกอยู่ที่หาดทราย

เด็กทั้งสองซึ่งต่อมาระบุชื่อได้ว่าคือ สโลน แมตทิงลี วัย 7 ขวบ และ แมดดอกซ์ แมตทิงลี วัย 9 ขวบ เล่นขุดหลุมทรายกัน โดยไม่คาดคิดเลยว่า นั่นจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กหญิงต้องเสียชีวิตในเวลาต่อมา เมื่อกองทรายที่พวกเขาขุดนั้น ถล่มใส่จนฝังเด็กทั้งสองไว้ทั้งเป็น

สำนักข่าวท้องถิ่นรายงานว่า มีผู้ถ่ายคลิปวิดีโอระหว่างที่นักท่องเที่ยวคนอื่น ๆ ช่วยกันขุดทรายที่ถล่มลงเพื่อช่วยเหลือเด็กทั้งสอง ก่อนที่ทีมกู้ภัยจะมาถึง 

ทีมดับเพลิงและกู้ชีพฉุกเฉินจากหาดปอมปาโน เป็นทีมแรกที่ตอบรับการแจ้งเหตุและเร่งรุดเข้าช่วยเหลือเด็กทั้งสอง พวกเขาต้องใช้พลั่วตักทรายออก และตั้งแผงกั้นทรายไหลกลับลงหลุม ระหว่างช่วยเหลือเด็กหญิงออกมา แต่พวกเขาไม่แน่ใจว่าเด็ก ๆ โดนทรายฝังอยู่นานเท่าไหร่ ก่อนที่ทีมจะไปถึง

เด็กทั้งสองได้รับการนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่ไม่สามารถรักษาชีวิตของ สโลน เอาไว้ได้ ขณะที่ แมดดอกซ์ รอดชีวิตและมีอาการทรงตัว

ผู้เชี่ยวชาญทีมกู้ภัยทางทะเลชี้ว่า หนูน้อย สโลน อาจจะยังมีชีวิตอยู่ ถ้าหากมีเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังภัยชายฝั่งประจำอยู่ที่หาดแห่งนี้เหมือนในเมืองริมทะเลเมืองอื่นที่อยู่ใกล้เคียง เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังภัยเหล่านี้ จะคอยเตือนนักท่องเที่ยวริมหาดว่าการขุดหลุมทรายนั้นมีอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ และจะคอยสอดส่องไม่ให้นักท่องเที่ยวขุดหลุมลึกกว่าความสูงระดับเข่า หรือประมาณ 2 ฟุต (0.6 เมตร)

นอกจากนี้ ยังต้องคอยกลบหลุมที่นักท่องเที่ยวขุดไว้ หลังจากที่พวกเขากลับไปแล้ว เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้

ส่วนหลุมที่สองพี่น้องขุดเล่นนั้น หลังจากตรวจสอบแล้วพบว่ามีความลึกประมาณ 5-6 ฟุต (ราว 1.5-2 เมตร) กองทรายที่ถล่มลงมานั้นฝังร่างของ สโลน จนมิด ขณะที่ทรายฝังร่างของ แมดดอกซ์ อยู่ในระดับอก ทำให้เด็กชายสามารถรอดชีวิตมาได้

ที่มาและเครดิตภาพ : miamiherald.com, sun-sentinel.com