ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ค่ายมวย อบต.ปรีชา หมู่ 8 ต.ท่าคา อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม พล.ร.ท.กมล จิตต์จำนงค์ อดีตเจ้ากรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ เป็นประธานกิตติมศักดิ์เลือกคณะกรรมการจัดตั้ง “สมาคมรำลึกจอมเตะบางนกแขวก” อภิเดช ศิษย์หิรัญ พร้อมเลือกตั้งคณะกรรมการเพื่อเตรียมจดทะเบียนจัดตั้งสมาคม ที่ประชุมมีมติเลือก นายปรีชา เปราะปักษิณ หัวหน้าค่ายมวย อบต.ปรีชา เป็นนายกสมาคมรำลึกจอมเตะบางนกแขวก นายสุริยงค์ รักจรรยา อุปนายกคนที่ 1 ร.ต.ท.บรรยงค์ เอี่ยมศิริ อุปนายกคนที่ 2 นางภคพร ทรงมณี อุปนายกคนที่ 3 นางชมพูนุท แย้มสรวล เหรัญญิกและหารายได้ น.ส.จิราภรณ์ แก้วมณี เลขานุการและทะเบียน นายมานพ จันทร์ฤทธิ์ ประชาสัมพันธ์ น.ส.ยุพเรศ เปาะปักษิณ ปฏิคม และ นายอาคม จันทรกูล ประเมินผล

นายอาคม จันทรกูล กล่าวว่า “อภิเดช ศิษย์หิรัญ” หรือนายณรงค์ ทรงมณี ชื่อเล่น “ตัง” เกิดเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2484 ที่หมู่ 4 บ้านหัวตะเข้ ต.บางนกแขวก อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม เป็นผู้ที่มีใจรักด้านกีฬามาตั้งแต่เด็ก จนได้เป็นนักกีฬาของโรงเรียนวัดเจริญสุขาราม เริ่มหัดชกมวยไทยตั้งแต่อายุ 13 ปี ขึ้นชกมวยครั้งแรกที่ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี และคว้าชัยชนะมาได้ จากนั้นจึงตระเวนชกมวยไทยทั้งใน จ.สมุทรสงคราม และจังหวัดใกล้เคียงจนเริ่มเป็นที่รู้จัก โดยเฉพาะลีลาการเตะที่หนักหน่วง กระทั่งถูกชักชวนชวนเข้าสู่สังเวียนผ้าใบ โดยใช้ชื่อ “อภิเดช ลูกพรชัย” ต่อมาปี พ.ศ. 2500 ได้ย้ายไปสังกัดค่ายมวย “ศิษย์หิรัญ” และใช้ชื่อ “อภิเดช ศิษย์หิรัญ” และใช้พลังแข้งที่หนักหน่วง เอาชนะคู่ต่อสู้นับไม่ถ้วนจนได้ฉายา “จอมเตะแห่งบางนกแขวก” โดยช่วงที่รุ่งโรจน์ที่สุดของอภิเดช คือระหว่างปี 2503-2514 โดยเฉพาะในปี 2507 ได้ครองแชมเปี้ยนรุ่นเวลเตอร์เวต ทั้งมวยไทยและสากล รวมถึงแชมเปี้ยนมวยสากลภาคตะวันออกไกลรวม 7 เส้น และได้ครองแชมป์คราวเดียวกันถึง 5 รุ่น

คู่ชกที่สำคัญของ อภิเดช ศิษย์หิรัญ ที่มีชื่อเสียงในยุคนั้น เช่น เดชฤทธิ อิทธิอนุชิต, เขียวหวาน ยนต์กิจ, ราวี เดชาชัย, อดุลย์ ศรีโสธร, ผุดผาดน้อย วรวุฒิ, แดนชัย ยนต์กิจ, สามารถ ศรแดง และฉกาจ จิตต์โสภา เป็นต้น โดยเฉพาะ ฉกาจ จิตต์โสภา นั้น เป็นนักมวยคนแรกที่สามารถชนะน็อก อภิเดช ศิษย์หิรัญ ได้ที่เวทีมวยชั่วคราววัดเจริญสุขาราม ต.บางนกแขวก บ้านเกิดของอภิเดช เอง

หลังจากหาคู่ชกยากขึ้น อภิเดช ศิษย์หิรัญ จึงหันไปชกมวยสากลรุ่นเวลเตอร์เวต และได้แชมป์ทั้งเวทีราชดำเนิน เวทีลุมพินี และสถาบันภาคตะออกไกล จากนั้นก็ได้ขึ้นชกกับนักมวยต่างชาติ กระทั่งอายุมากขึ้น จึงได้แขวนนวมและห่างหายไปจากวงการมวยหลายปี ก่อนจะหวนกลับมาสู่วงการมวยไทยอีกครั้ง ด้วยการเป็นเทรนเนอร์ให้นักมวยค่าย “แฟร์เท็กซ์” และจังหวัดสมุทรสงคราม ได้เคยจัดงานยกย่องเชิดชูเกียรติเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเยาวชนรุ่นหลัง พร้อมมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ โดยนายอนุวัฒน์ เมธีวิบูลย์วุฒิ อดีต ผวจ.สมุทรสงคราม เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 48 นับเป็นเกียรติประวัติครั้งสุดท้าย ก่อนจะล้มป่วยและเสียชีวิตขณะอายุ 72 ปี ด้วยโรคมะเร็ง เมื่อวันที่ 4 เม.ย. 56 ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า