หลังออกมาประกาศข่าวดีว่าท้องลูกคนแรก แบบฮือฮากันทั้งประเทศเลยทีเดียว สำหรับนักร้องสาวหน้าสวย “ธัญญ่า อาร์สยาม” แถมยังหมั้นแบบสายฟ้าแลบ กับสามีเศรษฐีลาว อย่าง “อาโล่” อีก งานนี้แฟนๆ พากันตะลึงรับข่าวดี 2 เด้งของเธออย่างมากมาย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าว ”เดลินิวส์ออนไลน์“ ได้เจอ ธัญญ่า อาร์สยาม ในงานซ้อมโชว์พิเศษซิงเกิลใหม่ล่าสุด “ฮักปลง“ ของเธอ งานนี้ก็ไม่พลาด คว้าเธอมาเปิดใจถึงเรื่องราวต่างๆ ทั้งเรื่องงานหมั้น และเรื่องตั้งท้องลูกคนแรก พรัอมกับดราม่าต่างๆ ที่เกิดขึ้น

ธัญญ่า อาร์สยาม เผยว่า “ตอนถ่ายเพลงนี้ท้องได้ 2 เดือน ก็ไม่ได้ปรับอะไรเยอะ แต่ปรับลดท่าที่เสี่ยง เช่น การกระโดด แต่ท่าเต้นก็ยังเต็มที่ ได้ปรึกษาคุณหมอ คุณหมอก็บอกให้หนูเซฟตัวเอง ส่วนสามีก็เป็นห่วงเรา ให้เซฟตัวเอง ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง หนูก็เซฟตัวเอง พอถ่ายเอ็มวีเสร็จก็ไปหาหมอปกติ จะทราบเพศตอนวันที่ 6 มีนาคม ส่วนตัวอยากได้ผู้หญิงทั้งบ้าน พอท้อง ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ตอนแรกกังวลเรื่องซิงเกิล ทางค่ายก็ไม่ได้ยุติ ยินดีกันทั้งหมด และวางแพลนตอนเสิร์ตอยู่ และรับงานได้ถึง 7 เดือนเลย ตอนที่ทราบว่าเป็นคุณแม่ก็น้ำตาไหล เราหยุดคุมแค่เดือนเดียว น้องก็มาเลย รู้สึกว่าน้องคงอยากมาในปีมังกร ส่วนสามีอยากได้ตั้งแต่แรก ขอให้หนูหยุด ตอนท้องก็ฝันเห็นพระธุดงค์เข้าไปในป่า ส่วนงานหมั้น เรามีแพลนอยู่แล้วไม่ปีนี้ ก็ปีหน้า พอมีน้องก็อยากทำให้ถูกต้อง และขอโทษผู้ใหญ่ ขอโทษผู้ใหญ่ทุกท่านที่ไม่ได้เชิญเพราะกะทันหัน ตั้งใจจะจัดงานฉลองหลังจากคลอดแล้ว จัดวันเดียวกับวันรับขวัญ จะได้เชิญทุกคนมา”

“ตอนนี้ก็เตรียมตัวเป็นคุณแม่มือใหม่จากช่องทาง TikTok ที่มีหมอมาให้ข้อมูล ถามว่ากังวลไหม ที่จากเด็กน้อยมาเป็นคุณแม่ ตอนแรกก็กังวล แต่ก็ปรับตัว และอยากสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์ เชื่อว่าทางอาโล่ก็จะเข้ามาเติมเต็มชีวิต ส่วนคุณแม่ธัญญ่า บอกเลยว่าอยากเลี้ยงเอง ตั้งตารอเลย ส่วนตัวพอประกาศว่าท้อง ก็ไม่มีดราม่า มีแต่คนยินดี ส่วนบางคนที่ดราม่าว่าท้องก่อนแต่ง ราคาถูก ส่วนตัวหนูว่าปี 2024 แล้ว ไม่มีใครมานั่งจับผิดราคาถูกราคาแพง คุณแม่ที่ท้องก่อนแต่งหลายคนก็รวยพันล้านก็มี ส่วนดราม่าที่มีคนเกาะเรา ก็แล้วแต่เขา ส่วนเรื่องฟ้องคงไม่ เปลืองค่าทนายมากกว่า ก็คงไม่นัดเคลียร์ เพราะไม่มีประโยชน์ อยากฝากอะไรถึงเขาไหม ให้ย้อนดูตัวเองว่าทำอะไรไว้ ทำไมถึงทัวร์ลงมากกว่า สำหรับหนู หนูจบ ไม่อยากให้พูดถึง เพราะมันน่าอาย”..