สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 2 มี.ค. ว่า สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติอินเดีย เผยแพร่รายงานว่า พื้นที่ส่วนใหญ่ในประเทศจะยังคงเผชิญกับสภาพอากาศร้อนจัด ไปจนถึงเดือน พ.ค. นี้ ซึ่งเป็นผลจากปรากฏการณ์เอลนีโญ ซึ่งก่อตัวเมื่อกลางปีที่แล้ว และจะยังคงอยู่จนถึงช่วงกลางปีนี้


ขณะที่อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วประเทศ เมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา มีระดับสูงเกือบเท่าเกณฑ์ปกติประจำเดือน ยกเว้นภูมิภาคทางตอนใต้ของประเทศ ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ปี 2444


รายงานดังกล่าวของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติ มีแนวโน้มยิ่งเพิ่มความท้าทายให้กับรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ซึ่งกำลังพยายามรักษาเสถียรภาพของภาวะเงินเฟ้อในประเทศ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับสินค้าบริโภคและอุปโภค ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ก่อนถึงการเลือกตั้งทั่วไป ในช่วงเดือน เม.ย. นี้ และสภาพอากาศที่ร้อนจัด อาจส่งผลกระทบต่อปริมาณของผลผลิตธัญพืชด้วย


ทั้งนี้ การที่อินเดียซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลก ระงับส่งออกข้าวแทบทุกประเภท ตั้งแต่เดือน ก.ค. ปีที่แล้ว ตลาดโลกยังคงได้รับผลกระทบอย่างหนัก รายงานโดยสถาบันวิจัยนโยบายอาหารนานาชาติ (ไอเอฟพีอาร์ไอ) ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยด้านการเกษตรระหว่างประเทศ เผยแพร่เมื่อเดือนที่แล้ว ระบุว่า ราคาข้าวหัก 5% ของไทย ปรับตัวขึ้นแล้ว 22%


นอกจากนี้ ต้นทุนการขนส่งสินค้าที่แพงขึ้น เนื่องจากสงครามที่ยืดเยื้อในฉนวนกาซา มีความเสี่ยงที่จะทำให้หลายประเทศในแอฟริกา อาจต้องเผชิญกับภาวะอดอยาก.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES