กลายเป็นประเด็นดราม่าร้อนที่ชาวเน็ตบนโลกออนไลน์ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากมายก่อนหน้านี้ สำหรับเรื่องราวของ “น้องธีร์-น้องพีร์” ลูกชายฝาแฝดของ “พ่อบีม กวี” และ “แม่ออย อฏิพรณ์” หลังจากที่ครอบครัวได้ไปออกงานอีเวนต์งานหนึ่ง ซึ่งมีแฟนคลับมาให้กำลังใจ และมอบของขวัญให้ลูกชายฝาแฝดกันอย่างมากมาย โดยเหล่าแฟนๆ ให้ของขวัญที่ดูเหมือนจะไม่เท่ากัน ซึ่งดูเหมือนว่าน้องพีร์จะได้ของเยอะมาก อาทิ เสื้อกั๊กที่เป็นเงินแบงก์ 100, ร่มคันใหญ่ที่เป็นเงินแบงก์ 100 และแฟนคลับยังหอบของเล่นมาให้เยอะมาก แต่ในขณะที่น้องธีร์ได้ร่มเหมือนกัน แต่เป็นร่มแบงก์ 20 และมีขนาดเล็กกว่ากันมาก จึงทำให้ชาวเน็ตดูสงสารเด็ก พร้อมตั้งคำถามว่า ทำไมพ่อแม่ถึงทนเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ขนาดนี้นั้น และพากันดราม่ายกใหญ่ว่าทั้งสองคนรักลูกไม่เท่ากันด้วยไหม และสงสารน้องธีร์กันอย่างรัวๆ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดในงาน COWAY EVERYDAY WOW หนุ่มบีมและสาวออยได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องนี้หลังจากมีดราม่าไป โดยทำให้หลายคนได้เข้าใจการเลี้ยงลูกของทั้งคู่มากขึ้นด้วย

ออย เผยว่า “เรื่องดราม่าอันนั้นคลิปยูทูบ ยังไม่เคยพูด อันนั้นเราทำมาก่อนที่จะมีเรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้น แต่เราก็ถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่เราได้สอนเด็กๆ ถือเป็นโอกาสว่าเห็นไหมว่ามีเรื่องนะ ก็ได้แชร์กันเราสอนลูกอยู่แล้วตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ตั้งแต่เด็กๆ แชร์กันแต่ไหนแต่ไรแล้ว เวลาไปถึงที่บ้านก็จะกองกัน จะเห็นว่าที่เขาจับตอนที่เพิ่งได้มา สุดท้ายเขาก็ไม่เอาแล้ว เขาก็ไปเล่นอีกอันหนึ่งที่พี่เขาเคยได้มา สุดท้ายมันก็จะรวมกันอยู่ตรงนั้นทั้งหมด ก็โอเคถือเป็นโอกาสที่เราสอนลูก ในสถานการณ์ต่างๆ ค่ะ อย่างการบอกแฟนคลับคือออยก็ไม่อยากบอกว่าจะต้องเหมือนกัน เท่ากัน หน้าตาเหมือนกันแบบนี้ เพราะจริงๆ แล้วมันเป็นสิทธิของคนให้ แต่ว่าเราก็ใช้โอกาสนี้แหละสอนลูกๆ คือในบ้านเราเท่าเทียมกัน ในบ้านมันฟูจนล้นแล้วแหละ ฉะนั้นออยคิดว่าในบ้านสำคัญกว่า ถ้าในบ้านมีให้ทุกอย่างสิบ หรือว่าความยุติธรรมเท่ากัน ออยคิดว่ามันก็จะเป็นเกราะป้องกันลูกที่เวลาไปเผชิญกับข้างนอกอยู่แล้ว ฉะนั้นออยคิดว่าข้างนอกจะไม่เท่ากันมันไม่น่าจะกระทบใจลูก ก็สอนลูกเอา และใช้โอกาสนี้สอนไป ในบ้านเราแข็งแรงตรงนี้ก็น่าจะเพียงพอ”

“เรื่องนี้ก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็แล้วแต่มันจะมีความคิดเห็นที่หลากหลายอยู่แล้ว ถ้ามุมไหนเราเห็นว่าเป็นประโยชน์ เราก็จะเอามาดูแล เอามาปรับปรุง ถามว่ารับมือกับดราม่ายังไง มันเหมือนกับชินมากกว่า เราเจอมา 4 ปีแล้ว เดือนแรกๆ ถ้าย้อนไปเมื่อ 4 ปี เราก็เครียดเหมือนกันนะ แต่ว่าเราไม่ได้แสดงออกหรือว่ามาพูดอะไรเยอะ เราก็เก็บตรงไหนมีประโยชน์เราก็ปรับปรุง เราก็เป็นแม่มือใหม่ ก็หลายๆ คนที่มาคอมเมนต์ก็หวังดีแหละ จริงๆ เราก็เอามุมที่หวังดีมาปรับ อย่างของออยจะเห็นคอมเมนต์ว่า อยากเป็นเหมือนออยอยากเป็นตัวอย่างในการเลี้ยงลูก เขาก็จะมีมุมที่เขาชอบแล้วเขาเอาไปปรับใช้ของเขา แต่เขาคงไม่ได้ยกของเราไปร้อยเปอร์เซ็นต์ ก็คิดว่าเป็นการแชร์กันมากกว่า แต่อะไรที่ดูเป็นเนกาทีฟมากเราก็ผ่านไป ถ้าแรกๆ ออยยอมรับว่ากระทบ และขอให้ไว้ใจได้เลยในความเอาใจใส่ที่เรามีให้กับลูกๆ พูดส่วนตัวเลยนะออยตั้งใจเลี้ยงลูกมาก ออยมีเป้าหมายในการเลี้ยงเขา แต่ไม่ได้หมายความว่าฉันจะให้เธอเป็นดอกเตอร์นะ ต้องจบมาทำงานแบบนั้นแบบนี้ ไม่เลย เป้าหมายของออยคืออยากให้เขาเป็นคนดี ดูแลตัวเองได้”

บีม เผยว่า “เราก็มาแก้ไขด้วยวิธีการของเรา มีการพูดคุยกันภายในแหละว่าเราจะทำยังไงบ้าง วิธีการรับมือ ถ้าเกิดเรื่องที่มีคนถกเถียงกัน เราก็เอามาคิดอยู่แล้วครับ ว่าเราสามารถแก้ไขอย่างไรให้มันดีขึ้นได้บ้าง คือสำหรับผมมองว่าผมสามารถจัดการภายในบ้านได้อย่างดีมากแล้ว แต่ว่าเวลามีคนพูดขึ้นมาเราก็จะคิดว่าตรงนี้เราลืมไปหรือเปล่า คือเราก็ปรับแก้อะไรของเรา คือตรงนี้ไม่ต้องมาบอกแหละว่าเราทำอะไรไปบ้าง วิธีการเป็นยังไงบ้างครับ แต่ว่าเรามีการพูดคุยกันแหละครับ อย่างเด็กๆ ผมว่าถ้าจะไปถามเขาว่ามูลค่าเงินคืออะไร ผมว่าเขาก็ยังไม่รู้เรื่องหรอกครับ อย่างสมมุติถ้าให้เขาเลือกระหว่างสีแดงกับสีน้ำเงินที่เป็นแบงก์ เขาก็คงชอบสีน้ำเงินมากกว่า แต่ถ้าเราเป็นผู้ใหญ่เราจะบอกชอบสีเทาลูก (ยิ้ม) พอผ่านไปเรื่อยๆ เราก็เข้าใจ เขาพูดมาเราก็เอามาคิด สุดท้ายเราเป็นคนที่อยู่กับลูก เราเป็นคนที่รู้ เราอยู่กับเขามาเรารู้ว่าสิ่งที่เราทำมาเป็นยังไง แล้วเขารู้สึกยังไง เราพูดคุยกับเขา เรานอนกับเขาทุกวัน ตื่นเช้าไปส่งเขาทุกวัน คุยกับเขาทุกวัน เขาเลิกเรียนเรารับกลับมา อยู่กับเขาตลอด ผมอยู่กับเขามากกว่าอยู่กับใครเลย จริงๆ คนที่มาคอมเมนต์อะไรที่มันไม่ดีนะ”

“ถามว่ารับมือกับดราม่าได้ไหม ก็ยังได้อยู่ ยังไม่คิดจะฟ้องใคร ไม่มีเก็บคอมเมนต์ใครไว้เลย แต่อนาคตเราก็ไม่รู้ว่ามันจะยังไงต่อ ผมเองอยู่วงการมานาน เคยมีเรื่องที่ทนไม่ได้จนต้องเซฟเก็บไว้ แบบปรี๊ดแตก ไม่ใช่เรื่องลูกเลย แต่เป็นเรื่องของบิ๊ก บางทีมันก็เป็นเรื่องของความปรารถนาดีที่เรามีให้กับสิ่งๆหนึ่งแต่คนอื่นไม่ได้มองแบบนั้น ผมเข้าใจแหละว่าทุกคนอยากให้ครอบครัวเราดี สมบูรณ์แบบ เราก็พยายามทำอยู่ เรารักลูกแน่นอน ไม่ต้องเป็นห่วงเลยเรื่องพวกนี้แล้วเรารักเท่าเทียมกัน”

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก beamkawee