เมื่อวันที่ 28 ก.ย. ที่กรมราชทัณฑ์ นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะอนุกรรมการสามัญประจำกรมราชทัณฑ์ หรือ อ.ก.พ. กรมราชทัณฑ์ กรณีนายสรวัชร์ ม่วงทอง เจ้าหน้าที่เรือนจำกลางชลบุรี เรียกรับเงินเพื่อแลกกับประโยชน์จากการเลื่อนชั้นโดยมิชอบ รวมเป็นเงิน 2 ล้านบาท หลังนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำนายจำรัส หอมชิต อดีตผู้ต้องขังเรือนจำกลางชลบุรี เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนต่อกระทรวงยุติธรรม ว่า หลังกรมราชทัณฑ์ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงนายสรวัชร์และได้นำเรื่องเสนอที่ประชุมคณะอนุกรรมการสามัญประจำกรมราชทัณฑ์ (อ.ก.พ.) กรมราชทัณฑ์ เพื่อพิจารณาในวันนี้ ล่าสุดที่ประชุม อ.ก.พ. กรมราชทัณฑ์มติให้ลงโทษนายสรวัชร์ ไล่ออกจากราชการ และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด่วน! สั่งเด้ง-สอบวินัยร้ายแรง จนท.ราชทัณฑ์ เก็บส่วยนักโทษ สั่งเลื่อน-ลดชั้นได้
‘อัจฉริยะ’พาเหยื่อร้องปปป. เอาผิดจนท.เรือนจำเรียกรับเงิน แลก ‘เพิ่มชั้น-อภัยโทษ’

นายอายุตม์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้พิจารณาลงโทษข้าราชการที่ผิดวินัย มีพฤติการณ์ที่เสื่อมเสีย ทำให้ประชาชนเกิดความไม่เชื่อมั่นในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ โดยมีมติลงโทษเจ้าหน้าที่ไล่ออก และปลดออก รวมทั้งสิ้น 10 ราย จาก 11 กรณี ได้แก่ การทุจริตต่อหน้าที่ จำนวน 1 กรณี การเรียกประโยชน์จากผู้ต้องขัง หรือญาติ จำนวน 2 กรณี การลักลอบนำสิ่งของต้องห้ามหรือไม่อนุญาตเข้าเรือนจำ จำนวน 2 กรณี การขาดราชการ เกิน 15 วัน โดยไม่มีเหตุอันสมควร จำนวน 2 กรณี และการปฏิบัติหน้าที่มิชอบโดยประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง จำนวน 4 กรณี

นายอายุตม์ กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า กรมราชทัณฑ์ ได้เน้นย้ำให้ข้าราชการในสังกัดยึดถือปฏิบัติตามระเบียบอย่างเคร่งครัดแต่ที่ผ่านมายังปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ตนจึงได้มีหนังสือสั่งการผู้บัญชาการเรือนจำ ผู้อำนวยการทัณฑสถาน สถานกักขัง สถานกักกัน แจ้งแนวทางการดำเนินการทางวินัยกรณีให้ออกจากราชการไว้ก่อน หากเจ้าหน้าที่ในสังกัดกรมราชทัณฑ์ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงที่เข้าข่าย 8 กรณีที่กรมราชทัณฑ์ได้กำหนดไว้ จนถูกตั้งกรรมการสอบสวน กรมราชทัณฑ์จะพิจารณาให้ผู้เกี่ยวข้องออกจากราชการไว้ก่อนและพิจารณาโทษสถานหนักต่อไป เพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่างกับข้าราชการอื่นๆ ตลอดจนเพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ต่อไป