โมฮาน เบลานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง อี 27 เปิดเผยว่า  โปรแกรมท็อป 100 เป็นโปรแกรมที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2555 เพื่อสนับสนุนสตาร์อัพในภูมิภาค ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น การให้คำปรึกษาเพื่อพัฒนาสตาร์ทอัพ และรวมถึงโอกาสในการระดมทุน  โดยสตาร์ทอัพที่เข้าร่วมโปรแกรมในปีนี้มาจากผู้เชี่ยวชาญในหลากหลายสาขา  ตั้งแต่ด้านความปลอดภัยไซเบอร์ ไปจนกระทั่งถึง AI และปีนี้มีสตาร์ทอัพที่อยู่นอก ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาร่วมโปรแกรม เช่น  อินเดีย บังคลาเทศ และไต้หวัน     

 “ผมภูมิใจที่ได้เห็นผู้สมัคร และมีผู้สมัครมาจากนอกภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากจุดเริ่มต้นของเราเมื่อปี 2555 สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงผลกระทบเชิงบวกที่เราได้สนับสนุนสตาร์ทอัพในเอเชียในรุ่นที่ 10 นี้เรามีผู้สมัครที่น่าประทับใจจำนวนมาก และสตาร์ทอัพที่ได้รับคัดเลือก 26 รายก็พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมสู่สิ่งใหม่ นั่นทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นมาก ที่จะได้เห็นว่าผู้เข้าร่วมงานรายอื่นๆ นำเสนอโครงการอะไรเข้ามาบ้าง”

สตาร์ทอัพที่เข้าร่วมที่ได้รับคัดเลือก 26 รายแรก ได้แก่ บริษัทสตาร์ทอัพจากลาว ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย พร้อมด้วยผู้สมัครชาวสิงคโปร์  รายชื่อที่เข้าร่วม เช่น Careera (สิงคโปร์), Fina Fintech (ลาว), Edge Tutor (ฟิลิปปินส์), dentall Co. Ltd. (ไต้หวัน), The Mango Jelly (อินเดีย), PriyoShop (บังกลาเทศ), Talent Hero Ventures (สิงคโปร์) และอื่นๆ

สตาร์ทอัพเหล่านี้จะเข้าร่วมในโปรแกรมท็อป 100 ในเดือนมีนาคม จะได้รับสิทธิ์เข้าถึงกิจกรรม การให้คำปรึกษา เวิร์กช็อป และเข้าถึงกลุ่มนักลงทุนมากกว่า 800 รายบนแพลตฟอร์ม e27 PRO Connect รวมถึงการออกบูธในงาน Echelon X และโอกาสในการแสดงไอเดียบนเวที Pitch Stage ภายในงาน ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-16 พฤษภาคม 2567 ที่ประเทศสิงคโปร์ งานในครั้งนี้เป็นการจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 10

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โครงการฯ ได้เห็นถึงการมีส่วนร่วม และการจัดแสดงเทคโนโลยีจากผู้เล่นที่มีชื่อเสียงหลายรายในอีโคซิสเต็มส์ของสตาร์ทอัพ เช่น 99.co, Edukasyon.ph, FOMO Pay, Lalamove, Gojek, Carousell และ Carro Priyoshop ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพที่เข้าร่วมในปี 2566 สามารถระดมทุนหลัก 5 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งทาง Priyoshop เข้าร่วมเวทีในปี 2567 อีกครั้งเพื่อขยายธุรกิจ

การจัดงานในปีที่ 10 นี้ ทางผู้จัดงานได้พัฒนาและปรับปรุงรายการต่างๆ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่แปรเปลี่ยนไป โดยมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มโอกาสให้กับสตาร์ทอัพ ที่ตอนนี้กำลังเติบโตอย่างโดดเด่น โดยรายการต่างๆ ที่เพิ่มเข้ามา เช่น การประชุมเชิงปฏิบัติการ และการให้คำปรึกษาที่มุ่งส่งเสริมให้เกิดความยืดหยุ่นทางธุรกิจ และการเติบโตอย่างยั่งยืน

“โปรแกรม ท็อป 100 เปิดโอกาสให้เราสนับสนุน และร่วมมือกับสตาร์ทอัพที่กำลังมาแรงในภูมิภาค ในปีนี้ เรามีกลุ่มสตาร์ทอัพกลุ่มแรกที่มีอนาคตสดใส และเราตั้งตารอที่จะเปิดตัวสตาร์ทอัพเพิ่มเติมในเร็วๆ นี้”  โมฮาน กล่าวว่า