เมื่อวันที่ 12 มี.ค. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เปิดเผยผลการจับกุม นายเค (นามสมมุติ) อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 885/2567 ลงวันที่ 1 มี.ค. 67 ข้อหา “กระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกินสิบสามปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และเป็นการกระทำแก่บุพการี ผู้สืบสันดาน พี่น้องร่วมบิดามารดาหรือร่วมแต่บิดาหรือมารดา ญาติสืบสายโลหิต ศิษย์ซึ่งอยู่ในความดูแล ผู้อยู่ในความควบคุมตามหน้าที่ราชการ ผู้อยู่ในความปกครอง ในความพิทักษ์หรือความอนุบาล หรือผู้อยู่ภายใต้อำนาจด้วยประการอื่นใด” โดยจับกุมตัวได้ที่ ซอยประชาสงเคราะห์ 27 แขวง-เขตดินแดง กทม. เมื่อวันที่ 11 มี.ค. ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวเริ่มตั้งแต่เมื่อปลายปี 62 ขณะนั้น ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 8 ขวบ อาศัยอยู่กับพ่อและพี่ชายต่างมารดา โดยทุกวัน ด.ญ.เอ จะถูกพ่อใช้มือล้วงเข้าไปในเสื้อและกางเกง จับหน้าอกและอวัยวะเพศ เป็นประจำ และพี่ชายก็ทำพฤติกรรมเดียวกับพ่อ จนถึงปัจจุบัน เป็นเวลากว่า 4 ปี จนครูของ ด.ญ.เอ ทราบเรื่องจากการบังเอิญเจอเศษกระดาษ ที่ ด.ญ. เขียนว่า “หนูเกลียดพ่อ หนูเกลียดพี่” และเมื่อครูที่ได้ฟังเรื่องราว จึงพาตัว ด.ญ.เอ ไปขอความช่วยเหลือมูลนิธิปวีณาฯ และมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ดินแดง ซึ่งหลังสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ก็ขออนุมัติศาลออกหมายจับทั้ง 2 คน คือ พ่อแท้ๆ และนายเค พี่ชาย ซึ่งหลังเจ้าตัวทราบว่าถูกดำเนินคดี จึงหนีออกจาก กทม. ไปพื้นที่แถบภาคเหนือ ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เบาะแสว่า นายเค เดินทางมายังบ้านพัก ย่านประชาสงเคราะห์ เขตดินแดง กรุงเทพฯ ซึ่งเปิดเป็นร้านขายของ ชุดจับกุมจึงวางกำลังและจับตัวได้ในที่สุด
ในชั้นจับกุม นายเค ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า ยอมรับว่าเป็นพี่ชายต่างมารดาจริง และอาศัยอยู่บ้านเดียวกัน เติบโตด้วยกันมาตลอดตั้งแต่เด็ก เรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องที่น้องสาวของตนคิดไปเอง สร้างเรื่องให้ตนกับพ่อถูกดำเนินคดี หลังจับกุมตัว ได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ดินแดง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
สำหรับพ่อของ ด.ญ.เอ ขณะนี้ถูกออกหมายจับศาลอาญาที่ 886/2567 ลงวันที่ 1 มี.ค. 67 ข้อหา “กระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกินสิบสามปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และเป็นการกระทำแก่บุพการี ผู้สืบสันดาน พี่น้องร่วมบิดามารดาหรือร่วมแต่บิดาหรือมารดา ญาติสืบสายโลหิต ศิษย์ซึ่งอยู่ในความดูแล ผู้อยู่ในความควบคุมตามหน้าที่ราชการ ผู้อยู่ในความปกครอง ในความพิทักษ์หรือความอนุบาล หรือผู้อยู่ภายใต้อำนาจด้วยประการอื่นใด”
พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า ทางคดีเรายังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา เพราะคำพูดของเด็กนั้นบริสุทธิ์มากกว่า และยังมีพยานหลักฐานอื่นเชื่อมโยง ทำให้ศาลอนุมัติหมายจับทั้งพ่อและพี่ชายรายนี้ จากพฤติการณ์ในคดีนี้นับว่า น่าหดหู่ใจอย่างยิ่งของสถาบันครอบครัว ที่น่าจะเป็นสถานที่ปลอดภัยที่สุดของเด็กๆ กลับกลายเป็น “นรกบนดิน” ที่สร้างสมฟูมฟักบาดแผลหยั่งลึกลงในใจของเด็กน้อยไปนานแสนนาน ผมขออวยพรให้น้องผู้เสียหาย มีกำลังใจที่เข้มแข็งผ่านพ้นเรื่องเลวร้ายในอดีต และเติบโตอย่างมีความสุขในวันข้างหน้า ให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่จะต้องจัดการกับผู้กระทำผิด ซึ่งเรายืนยันว่าจะพลิกแผ่นดิน ตามล่าคนร้ายที่เหลือรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน หากผู้ใดมีเบาะแส โปรดแจ้งข้อมูลมาที่เพจ “สืบนครบาล IDMB” เรามีเจ้าหน้าที่พร้อมตลอด 24 ชั่วโมง เพราะแม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.
