เมื่อวันที่ 13 มี.ค. พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีที่ขณะนี้มีผู้บริหารสถานศึกษาหลายแห่ง ได้ทำจัดสั่งซื้อหนังสือเรียนประจำปีการศึกษา 2567 ในราคาที่สูงแต่มีคุณภาพต่ำกว่าที่ควรจะเป็น จนเป็นที่สงสัยของสังคมว่าอาจจะมีความไม่ชอบมาพากล หรือมีผลกระโยชน์อื่นใดเกิดขึ้นในการจัดซื้อหนังสือดังกล่าวหรือไม่ และมีกระแสเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ทำการตรวจสอบกรณีดังกล่าวว่า เรื่องนี้ตนพร้อมรับที่จะดำเนินการไปตรวจสอบ แม้การจัดซื้อแบบเรียนจะเป็นเรื่องเสรีของสถานศึกษาในการเลือกซื้อแบบเรียนก็ตาม แต่กระบวนการที่มีความไม่ชอบมาพากล สถานศึกษาก็จะต้องตอบสังคมให้ได้ ดังนั้นตนขอไปดูระบบการจัดซื้อแบบเรียนก่อนว่ามีการดำเนินการอย่างไร ซึ่งทุกอย่างจะต้องดำเนินการอย่างโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาล ส่วนจะเป็นไปได้หรือไม่ที่จะให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ร่วมตรวจสอบกับสถานศึกษาในการจัดซื้อแบบเรียนด้วยหรือไม่ ซึ่งประเด็นนี้ ตนคิดว่ายังไม่ต้องให้ ป.ป.ช. ร่วมตรวจสอบ แต่ ศธ. ขอตรวจสอบด้วยตัวเองก่อน หากมีความไม่ชอบมาพากลจริง ก็จะต้องมีจัดการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป

ด้าน ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า สำหรับการจัดซื้อหนังสือเรียนของสถานศึกษาจะมีคณะกรรมการภาคี 4 ฝ่ายในสถานศึกษา ประกอบด้วย ผู้บริหารโรงเรียน ครู กรรมการสถานศึกษา และนักเรียน ดังนั้นการที่โรงเรียนจะไปจัดซื้อหนังสือเรียนของบริษัทใดบริษัทหนึ่ง จะต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการชุดดังกล่าวก่อน และเมื่อเร็วๆ นี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ออกแนวปฏิบัติการจัดซื้อหนังสือเรียนแจ้งสถานศึกษาทุกแห่งไปแล้วว่า จะต้องพิจารณาเรื่องของคุณภาพความทันสมัยของแบบเรียน และความเหมาะสมกับการเรียนการสอน แต่การดำเนินการจัดซื้อทั้งหมด อำนาจจะอยู่ที่คณะกรรมการโรงเรียนเท่านั้น ในการพิจารณาคัดเลือก ซึ่งการจัดซื้อแบบเรียน จะมีราคางบประมาณควบคุมไว้อยู่แล้ว จะต้องซื้อไม่เกินราคางบประมาณที่เราจัดสรรไปให้