ศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 มี..ค ที่ผ่านมา เชลซี ทีมดังจากศึกพรีเมียร์ลีก เปิดรังสแตมฟอร์ด บริดจ์ รับการมาเยือนของ เลสเตอร์ ซิตี ทีมจากศึกเดอะ แชมเปี้ยนชิพ 

โดยเกมนี้ “สิงห์สำอาง” เจ้าถิ่นเริ่มต้นได้ดี ขึ้นนำก่อน 2-0 ในครึ่งแรก โดยได้จาก มาร์ก กูกูเรญา นาทีที่ 13 และ โคลพาลเมอร์ นาทีที่ 45+1 โดยที่จริง ๆ แล้วมีโอกาสนำห่างถึง 3-0 เมื่อได้จุดโทษในนาทีที่ 26 แต่ ราฮีม สเตอร์ลิง ยิงจุดโทษไม่เข้า 

เข้าสู่ครึ่งหลัง กลายเป็น “จิ้งจอกสยาม” ทีมเยือน ที่เร่งเกมและได้คืน 2 ประตูรวด จากการทำเข้าประตูตัวเองของ อักเซิล ดิซาซี กองหลังเจ้าถิ่น นาทีที่ 51 และ สเตฟี มาวิดิดี นาทีที่ 62 

อย่างไรก็ตาม ถึงนาทีที่ 73 “จิ้งจอกสยาม” ต้องเหลือแค่ 10 คน หลัง คัลลัม ดอยล์ ทำฟาวล์ นิโคลัส แจ๊คสัน ในจังหวะหลุดเดี่ยว โดนใบแดงไล่ออกจากสนามไป หลังจากนั้น “สิงห์สำอาง” ที่ได้เปรียบตัวผู้เล่น เดินเกมบุกหนัก ก่อนจะมาได้ประตูนำอีกครั้งเป็น 3-2 จากจังหวะที่ พาลเมอร์ ไขว้ให้ คาร์นีย์ ชุควูเอเมกา หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงตุงตาข่าย ก่อนที่โนนี มาดูเอเก จะซัดปิดท้ายในนาทีที่ 90+8  ช่วยให้ เชลซี คว้าชัย 4-2 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ  

เครดิตภาพ : Getty Images