เรียกได้ว่ากำลังเป็นข่าวเศร้า ที่หลายคนให้ความสนใจในขณะนี้ หลังจากวงการบันเทิงไทย ได้สูญเสียพระเอกดังมากฝีมือ “เมฆ-วินัย ไกรบุตร” ไปตลอดกาล โดย “เอ๋-อรชัญญาช์ ไกรบุตร” ภรรยา ได้แจ้งข่าวเศร้าว่า สามีสิ้นลมอย่างสงบแล้ว เมื่อเวลา 23.49 น. ของวันที่ 20 มี.ค. จากภาวะความดันตก ติดเชื้อในกระแสเลือด กระทั่งหัวใจหยุดเต้น นำมาซึ่งการเสียชีวิตในที่สุด ท่ามกลางความเสียใจของครอบครัว และเพื่อนพ้องในวงการ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด “หนุ่ม คงกระพัน” ที่ได้เดินทางมาร่วมงานรดน้ำศพ ณ วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต พร้อมเปิดใจกับสื่อมวลชนว่า “ทราบเรื่องเมื่อคืนที่ผ่านมา ก่อนเสียชีวิตได้คุยกับภรรยามาหลายวัน มีความกังวล ไม่คิดว่าจะไปเร็วขนาดนี้ แต่รอบนี้อาการหนัก เมื่อคืนอยู่ที่ร้อยเอ็ดเตรียมตัวกลับมาทำงานที่ กทม. รู้สึกนอนไม่หลับ เลยให้ภรรยาเราโทรฯ หาพี่เอ๋ว่าเป็นยังไงบ้าง ก็บอกว่านอน icu เราก็มีความกังวล เราก็เลยขึ้นไปนอน แต่นอนไม่หลับ พอเที่ยงคืนมีโทรศัพท์มาก็คิดว่าเป็นเรื่องไม่ดี พี่เอ๋ก็แจ้งว่าพี่เมฆเสียแล้ว และก็มีการพูดคุยกันเรื่องพิธีศพ ซึ่งเคยคุยกับพี่เมฆอยากทำแบบพุทธและทางครอบครัวก็ไม่ติดอะไร”

“ครั้งสุดท้ายได้คุยกันก็หลายสัปดาห์แล้ว จริงๆ พี่เมฆเป็นคนเข้มแข็ง เราไม่ได้คุยกันทุกวัน แต่ผมก็คุยกับพี่เอ๋ ซึ่งไม่นึกว่าจะไปเร็ว รู้แค่ว่าป่วยหนัก สำหรับผมพี่เมฆดูเหมือนเป็นคนโผงผางมาก แต่จริงๆ เป็นคนแข็งนอกอ่อนใน ปากร้ายแต่ใจดี ถ้าเราเป็นเพื่อนเราจะรู้ ลึกๆ เป็นคนใจดี แต่ขี้น้อยใจ ถ้าสนิทกันจะรู้ ตั้งแต่ป่วยก็กังวลเรื่องลูก เรื่องค่าใช้จ่ายเพราะเขาเป็นเสาหลักของครอบครัว จริงๆ เรื่องขอขมากรรมเราก็ช่วยให้เขาทำในสิ่งที่ดีๆ ส่วนหนึ่งของการหมดกรรมก็มีเหตุการณ์นี้อยู่ด้วย เราไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ก็เป็นวิถีทางที่เราทำให้เขา ให้เขาทำบุญ ถ้าคนเชื่อเรื่องนี้ก็จะรู้ว่ามีกรรมหลายภพชาติ ซึ่งเขาก็ไปสบาย ตอนที่เข้าไปรดน้ำศพ เราก็บอกเขาแล้วไปสบาย ไม่ต้องกังวล”

“บอกกับพี่เอ๋ให้เข้มแข็ง ทำหน้าที่ต่อไป จะต้องเป็นหัวหน้าครอบครับ ก็ซ้อมมาเป็นหัวหน้าครอบครัวมา 5 ปีแล้ว เขาเป็นคนเก่ง เราก็พยายามช่วยอย่างเต็มที่มาตลอด ส่วนหนี้สินที่มีอยู่ เราไม่ทราบ เพราะเป็นเรื่องของครอบครัว แค่รู้ว่ามี เพราะทุกครั้งที่ไปโรงพยาบาลก็ต้องมีค่าใช้จ่าย รวมถึงลูกๆ ทั้งค่าเทอม ค่าเรียน อย่างน้อยๆ ก็หลักล้าน ซึ่งจริงๆ เราก็ไม่ได้เรี่ยไรอะไร แค่มาช่วยเหลือตามกำลัง ตั้งแต่เขาป่วยเราก็คิดว่าจะไหวไหมนะ มันไม่ได้กะทันหัน เราก็เผื่อใจไว้ตลอด เพราะเขาป่วยหนักมาตลอดอยู่แล้ว ส่วนคอนเสิร์ตเรามีความตั้งใจมาตลอด แต่พอเขามาเสียชีวิตก่อนวันที่ 26 มีนาคม เราก็ตัดสินใจว่ามีต่อไป เชื่อว่าแฟนๆ ของพี่เมฆก็อยากจะเชียร์ และให้กำลังใจพี่เมฆ ซึ่งงานนี้มีศิลปินมาร่วมงานกว่า 40 ชีวิต พอเราบอกไปก็มีคนเข้ามาร่วมช่วยกันเยอะ โดยค่าบัตรที่ขายได้จะมอบให้ครอบครัวพี่เมฆทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่าย สุดท้ายอยากบอกเพื่อนไม่ต้องเป็นห่วงอะไร ทุกคนที่อยู่ข้างหลังก็เข้มแข็ง ทั้งภรรยา และลูกๆ น้องจะดูแลครอบครัวแทนพี่เมฆ จะทำให้ดีที่สุด”