สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 23 มี.ค. ว่า สำนักงานความมั่นคงแห่งรัฐ (เอฟเอสบี) และคณะกรรมาธิการสอบสวนแห่งรัฐ รายงานจำนวนผู้เสียชีวิต จากเหตุกราดยิงภายในหอประชุมโครคัส ที่เมืองคราสโนกอร์สก์ ทางตอนเหนือของกรุงมอสโก ซึ่งกำลังจะมีการแสดงคอนเสิร์ตของวงดนตรีร็อก เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา เพิ่มเป็นมากกว่า 60 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกมากกว่า 100 คน


เบื้องต้นมีการเปิดเผยว่า กลุ่มคนร้ายเป็นชายอย่างน้อย 4 คน แต่งกายด้วยชุดลายพรางคล้ายทหาร ที่นอกจากบุกเข้ามากราดยิงใส่ประชาชนแล้ว ยังใช้ระเบิดและจุดไฟเผาสถานที่ด้วย ส่งผลให้หลังคาบางส่วนของหอประชุมพังถล่มลงมา อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว


หลังเกิดเหตุ กลุ่มไอเอส-โคราซาน หรือ ไอเอส-เค ซึ่งเป็นเครือข่ายของกลุ่มไอเอส และมีฐานปฏิบัติอยู่ในเอเชียกลางและเอเชียใต้ อ้างเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง


ขณะที่ทำเนียบเครมลินออกแถลงการณ์ ประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น “เป็นการก่อการร้าย” และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงกำลังเร่งไล่ล่าตัวกลุ่มคนร้าย ในเวลาเดียวกัน รัฐบาลรัสเซียสั่งยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัย ตามสนามบินและสถานีรถไฟทุกแห่งในประเทศ

เจ้าหน้าที่เร่งควบคุมเหตุเพลิงไหม้หอประชุมโครคัส ใกล้กับกรุงมอสโก เมืองหลวงของรัสเซีย ซึ่งเกิดเหตุก่อการร้าย มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 60 ราย


เหตุการณ์ครั้งนี้ เกิดขึ้นเพียงสัปดาห์เดียว หลังปูตินชนะการเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 5 ท่ามกลางเสียงวิจารณ์อย่างหนักจากฝ่ายตะวันตก ขณะที่สำนักข่าวกรองทหารยูเครนออกแถลงการณ์ ยืนยันไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุกราดยิงครั้งนี้


ส่วนสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐออกแถลงการณ์ว่า “เป็นเรื่องเลวร้าย” และส่งกำลังใจให้กับผู้ได้รับบาดเจ็บทุกคน ให้มีอาการดีขึ้นโดยเร็ว พร้อมทั้งยืนยันว่า เคยแบ่งปันข้อมูลข่าวกรองกับรัสเซีย เพื่อแจ้งเตือน “เหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นในสถานที่ซึ่งมีผู้คนรวมตัวหนาแน่น”.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES