สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 29 มี.ค. ว่า คณะตุลาการศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ไอซีเจ) หรือศาลโลก มีมติเป็นเอกฉันท์ ว่าอิสราเอลต้องใช้มาตรการที่จำเป็นและมีสิทธิภาพ “โดยปราศจากความล่าช้า” ในการเกิดทางให้การส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และความช่วยเหลือพื้นฐานที่จำเป็นเร่งด่วน เข้าถึงประชาชนในฉนวนกาซา


ทั้งนี้ คำพิพากษาของศาลโลก ระบุ “สิ่งของที่จำเป็นเร่งด่วน” รวมถึง อาหาร น้ำ เชื้อเพลิง เต็นท์ เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม อุปกรณ์และเครื่องมือที่เกี่ยวข้องกับการทำความสะอาด และการรักษาความสะอาด ยารักษาโรคพื้นฐาน และเวชภัณฑ์ที่จำเป็นสำหรับชาวปาเลสไตน์ทุกคนในฉนวนกาซา เพื่อป้องกันการเกิดภาวะอดอยาก


มติดังกล่าวของศาลโลก เป็นไปตามคำร้องของแอฟริกาใต้ ซึ่งยื่นเรื่องขอให้มีการพิจาณาเพิ่มเติม หลังคณะตุลาการมีคำพิพากษา เมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา ว่าอิสราเอล “ต้องดำเนินการภายใต้ขอบเขตอำนาจ” ป้องกันการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และป้องปรามไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐใช้วาจาที่อาจกลายเป็นการกระตุ้นให้เกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์


อย่างไรก็ตาม คำตัดสินของศาลโลกไม่ได้ระบุอย่างตรงไปตรงมา เกี่ยวกับการหยุดยิง และคณะตุลาการไม่ได้กล่าวอย่างชัดเจนว่า อิสราเอลมีพฤติการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซาจริงหรือไม่ อนึ่ง แอฟริกาใต้ยื่นคำร้องต่อศาลโลก เมื่อเดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว ว่าอิสราเอลละเมิดอนุสัญญา ว่าด้วยการป้องกันและลงโทษความผิดอาญาฐานฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ฉบับปี 2491 จากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซา และเรียกร้องศาลโลกออกคำสั่งชั่วคราว ให้คู่สงครามหยุดยิง ระหว่างการพิจารณาคดียังดำเนินอยู่


ขณะที่รัฐบาลอิสราเอลกล่าวว่า การฟ้องร้องของแอฟริกาใต้ “ปราศจากข้อเท็จจริงและไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานทางกฎหมาย” และวิจารณ์อีกฝ่ายว่า “สนับสนุนองค์กรก่อการร้าย” หมายถึงกลุ่มฮามาส ขณะเดียวกัน การยื่นคำร้องของแอฟริกาใต้ “บ่งชี้เจตนาว่าต้องการแสวงหาผลประโยชน์ทางการเมือง ผ่านการใช้อำนาจของฝ่ายตุลาการเท่านั้น”.

เครดิตภาพ : AFP