เมื่อวันที่ 29 มี.ค. 67 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เป็นประธานแถลงข่าว โครงการ 1 กีฬา 1 รัฐวิสาหกิจ พลัส พร้อมลงนามกับ 17 รัฐวิสาหกิจ สนับสนุนวงการกีฬาไทย ผ่านสมาคมกีฬาต่างๆ ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยมีผู้บริหารจากทั้งหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ, ภาคเอกชน และหน่วยงานกีฬาที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม เพื่อร่วมเป็นสักขีพยานอย่างคับคั่ง

นายเศรษฐา กล่าวว่า การดำเนินการครั้งนี้ ได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากทั้งหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ บริษัทเอกชน, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, กระทรวงการคลัง, ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ และการกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งการลงนามดังกล่าวมีผู้ให้การสนับสนุนทั้งสิ้น 38 หน่วยงาน และมีสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย ที่ได้รับการสนับสนุน จำนวน 87 สมาคม โดยจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 4 ปี ในวงเงินสนับสนุนไประมาณปีละ 400 ล้านบาท คิดเป็นวงเงินรวมทั้งสิ้น 1,640 ล้านบาท ซึ่งการสนับสนุนสมาคมกีฬาอย่างทั่วถึงและต่อเนื่องเช่นนี้ จะช่วยให้สมาคมกีฬาต่างๆ สามารถวางแผนการพัฒนาในระยะยาวได้อย่างเหมาะสม และก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาวงการกีฬาไทย

สำหรับปีแรก ในส่วนของรัฐวิสาหกิจ ที่ให้เงินสนับสนุนสมาคมกีฬา เป็นจำนวน 173.5 ล้านบาท สนับสนุนเป็นจำนวนเงินมาแล้ว 169.5 ล้านบาท คงเหลืออีก 4 ล้านบาท

“ตราบใดที่ผมเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ จะไม่ให้วงการกีฬาต้องขาดงบ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก จะดูแลวงการกีฬาอย่างเต็มความสามารถ เพื่อสมดุลและขยายตัวทางเศรษฐกิจ การใช้งบประมาณอย่างถูกต้อง ปราศจากการทุจริตประพฤติมิชอบ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมจะต้องให้ความสำคัญ ไม่ใช่เงินอัดฉีดหรืองบประมาณอย่างเดียว เรื่องนโยบายก็สำคัญ การที่เราเป็นนักกีฬา แทนที่จะเอาเวลาไปทำอย่างอื่น เพื่อสร้างอาชีพในระยะยาว อายุที่เขาสามารถเล่นกีฬาได้ มีจำกัด สิ่งที่นักกีฬาทุกคนมีความกังวลคือเรื่องของอนาคต เหมือนกับพวกเราทุกคน เรื่องอนาคตสำคัญ บางเรื่องเราไม่ได้อยู่วงการกีฬาก็ไม่ทราบ ว่าระยะเวลาที่เขาสามารถหาเงินได้มันไม่ยาว ฉะนั้นการที่เราต้องดูแลบุคลากรที่ทำชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ ถือเป็นหน้าที่ของรัฐบาล” นายกฯ เศรษฐา กล่าว