เมื่อวันที่ 29 มี.ค. ที่สตูดิโอบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ต.บางพูน อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี แจ๊ส ชวนชื่น พร้อม แจง ภรรยา ตั้งโต๊ะแถลงข่าวคดีถูก ‘บู๊’ พี่ชายแจงขโมยรองเท้าผ้าใบรุ่นหายาก มูลค่าเสียหาย 300,000 บาท พร้อมประกาศตัดขาดหากเป็นอะไรไปถือว่าเป็นเขา เพราะตนเองไม่มีศัตรู โดยมีสื่อมวลชนจำนวนมากเข้าร่วม

ผู้สื่อข่าวเริ่มต้นถามว่า อยากให้เล่าถึงวันที่ทราบว่ามีการขโมยเกิดขึ้น โดย “แจง” เผย เราพอทราบมาคร่าว ๆ แล้ว แต่ยังไม่มีหลักฐาน ประกอบกับที่เขาไลฟ์สด แล้วมีคนอัดเอาไว้ถามประมาณว่า “รองเท้าพี่แจ๊สป่านนี้ไปแล้วสิ” อีกฝ่ายก็ได้ตอบว่า เป็นคนเอาไปเอง ตนจึงนำหลักฐานดังกล่าวส่งให้ตำรวจโดยมีการนัดกับตำรวจไว้ว่าเราจะว่างวันที่ 29 เพราะฉะนั้นเราก็ผ่านไปหน้าบ้านหลังเก่าก่อน กลับต้องตกใจเพราะประตูหน้าบ้านเราแตกไป 1 บานอย่างที่ลงรูปเอาไว้ จึงรีบโทรแจ้งเหตุ 191 เพื่อให้ตำรวจเข้าไปตรวจสอบ เพราะไม่มั่นใจว่ายังมีคนอยู่ในบ้านหรือเปล่า พอตำรวจมาถึงก็เห็นว่าประตูแตกมีการล็อกจากด้านในตำรวจจึงรายงานไปยังสถานีเพื่อนำกำลังเสริมมา เราในฐานะเจ้าบ้านแต่ไม่มีกุญแจจึงงัดเข้าไปตรวจดูปราฏกว่าภายในบ้านมีร่องรอยของคนอยู่ จากนั้นก็ขึ้นไปตรวจที่ห้องชั้น 3 ซึ่งเป็นห้องรองเท้า โดยเมื่อช่วงก.ค.66 ตนเคยถ่ายคลิปวิดีโอตอนเข้ามาเยี่ยมบ้านหลังเก่าเอาไว้ จึงมีรูปภาพและวิดีโอของรองเท้าที่ยังอยู่ในนั้น ทุกคนก็ถามว่าทำไมไม่ย้ายออก แจ๊ส ชวนชื่น บอกว่า เพราะยังไม่ได้ทำห้องก็เลยเก็บรองเท้าที่เป็นโซนคอนเวิร์สไว้ที่บ้านหลังนี้

แจง ได้เล่าต่อว่า จริง ๆ คนที่จะมีกุญแจห้องนั้นคือพี่ต่อเพื่อนของแจ๊ส ซึ่งเป็นคนดูแลของทั้งหมดของแจ๊ส ทีนี้ห้องนั้นมันเปิดได้เลย แปลว่ามันมีร่องรอยการถูกงัดเกิดขึ้น เมื่อเข้าไปก็พบว่ารองเท้าหลายคู่ที่เป็นแรร์ไอเทมหายไป กลายเป็นว่าคลิปวิดีโอนั้นมีมูลความจริงตำรวจเลยเรียกกองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาที่จากนั้นห้องที่อยู่ตรงข้ามกับห้องรองเท้าก็มีร่องรอยของการพักอาศัย พบอุปกรณ์เสพยา พบถุงยางอนามัยที่ใช้แล้ว และยังไม่ได้ใช้ ทำให้รู้ว่าในบ้านมีคนอยู่จริง ๆ จากนั้นลงไปที่ชั้น 2 เป็นห้องนอนเก่าของตนและแจ๊สเคยอยู่ พบว่าถูกล็อก ตำรวจจึงงัดพังประตูเข้าไป พบว่าแอร์เพิ่งจะปิดไปได้ไม่นานยังทิ้งของใช้ส่วนตัว เช่น นาฬิกา โทรศัพท์มือถือเอาไว้ แปลว่าเขามีการหนีออกไปทางหลังบ้านโดยคลาดเคลื่อนกัน คิดว่าเขาน่าจะรู้ตัว ตั้งแต่แจงให้คนวนไปที่หน้าบ้าน มีคนถามว่าทำไมแจงถึงได้เงียบขนาดนี้ ตนเองไม่ได้เงียบตั้งแต่เขาออกมาไลฟ์เดือนธ.ค. แจงได้แจ้งความไว้ที่สน.ลาดพร้าว โดยมีทนายเป็นตัวแทนไปแจ้งความ 26 ธ.ค.66 ที่ตนเองเงียบเพราะตนเองไม่รู้จะพูดอะไร พูดตรงนี้เลยว่าสิ่งที่แจงและครอบครัวโดนกระทำมันสุดจริงๆ แล้ว ทำไมแจงต้องมาพูดให้ทุกคนเข้าใจเราด้วย การที่เราไม่พูดกลับว่าเรายอมรับไม่ปกป้องแจ๊ส

แจ๊ส กล่าวว่า ตนเองและแจงกำลังสร้างตัวกัน ถามว่าพวกเราทุกคนไม่มีใครยอมใคร ถ้าใครมาร้ายกับคุณ แต่ผมต้องเงียบต้องทำงานต้องหาเงิน ถ้าตนเองไปปะทะจะมีผลกับงาน สิ่งที่เขาไลฟ์ออกมาพูดเหมือนต้องการให้ตนเสียชื่อเสียง ตนเองเลยต้องเงียบ แต่วานนี้มันเงียบไม่ไหวแล้ว คนเราไม่อยากโดนกระทำย่ำยีบ่อยๆ หลอก

แจง เปิดเผยว่า ผมยังถามตัวเองว่าผิดอะไร นับย้อนไป 2 ปี ตั้งแต่เขาออกจากคุกมาปี 63 ช่วงโควิดตอนนั้นวงเราไม่มีงาน แต่เริ่มมี 1 งาน 2 งาน เราก็เลยเอาวะเอาเขามาทำงาน ก็เริ่มมีฤทธิ์กับที่บ้าน เอารถส่งของที่บริษัทแจ๊สไปชนที่บ้านของแม่ที่มีนบุรีจนไปจบที่โรงพัก แจงไม่เคยเอามาบอกหรือมาพูดเพื่อทำลายใคร แต่วันนี้แจงกับแจ๊สโดนทำลายไปหมดแล้ว ภาพที่ปรากฏก็มีภาพผู้กำกับท่านเดิมอยู่ในเหตุการณ์ จบด้วยการออมชอม ผ่านไปไม่นานในปี 64 ตนเองก็ซื้อรถฮอนด้ารุ่นซีวิคจากมือกีต้าร์ของวงให้น้องจะถูกยึดในราคา 790,000 บาท เพื่อให้เขา โดยตนเองโอนชื่อให้เขาเลย เมื่อได้รถไปมีปัญหาอีกหนี้การพนันเอาหนี้สินมาให้ตนเองกับที่บ้านใช้หนี้ให้ แต่ตนเองก็ทนเพื่อให้โอกาสเขา วันๆ นึงแจงกับแจ๊สหาเงินเหนื่อยมากกับสิ่งที่เขาออกมาว่าแจงด่า แจงมันไม่แฟร์เลย จนลามมาถึงรูปแจงพร้อมทั้งขู่ฆ่าลงภาพปืน ตนเองก็เก็บหลักฐานไว้หมด ตนเองก็รู้สึกไขว้เขวเพราะสามีทำงานในที่แจ้ง ลูกเราอีก จนวานนี้ตนเองยอมไม่ได้แล้วจึงต้องออกมาสู้เพื่อวัดกันว่าจะเอาอย่างไร

แจ๊ส เปิดเผยว่า วานนี้มันก็ไม่ไหวตนเองยอมรับจิตหลุดแต่ตนเองมีสติที่จะพูดคุยเพื่ออยากให้ทุกคนรู้ว่าอันไหนมันจริงอันไหนไม่จริง เวลาเขาพูดอะไรคนเชื่อเยอะเพราะเขาเป็นญาติแจง แต่ถ้าเข้ามาคุยกันต่อหน้าจริงๆ แบบนี้จะได้รู้แน่ว่าจริงๆ มันคืออะไร แจงบอกว่าเสียใจมาก เสียใจจนพูดไม่ออก ไม่มีใครรู้เลยว่าในใจเราทำอะไรกันอยู่

แจ๊สบอกว่าตนเองไม่เคยมีปัญหากับใครอยู่แล้ว หากตนเองหรือครอบครัวเป็นอะไรไปก็คือเขาแค่นั้นเอง ที่ตนเองจะมาบอก ตนเองไม่รู้ว่าเขาอยู่ไหน แจงบอกอีกว่า ตนเองรู้สึกระแวงมากกว่าทุกคน เพราะตนเองเป็นโรคแพนิค ตนเองไม่อยากเอาหลักฐานมาเปิดเผยเพราะอยากให้เขามีช่องทางทำมาหากิน แจ๊สบอกว่า แจงไม่เคยทิ้งพี่น้อง ไม่เคยทำร้ายพี่น้อง แต่ครั้งนี้หนักมากจริงๆ

สำหรับเรื่องรองเท้าตนเองโกรธ เงินกว่าจะหามาได้ พ่อแม่ไม่ได้รวย ตนเองหาเงินสุจริตแล้วคุณมาเอาของๆ ผมไป เงินผมมีจะซื้อเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ความรู้สึกตอนนั้นที่ซื้อเก็บเอาไว้มันตั้งแต่ครั้งแรกในชีวิต มันเป็นรองเท้าคู่แรกที่ผมอยากได้ คู่แรกของผมมันอยู่ในนั้นหมดเลย ตอนนี้คุณแสดงตัวเถอะออกมาเลยหรือออกรายการด้วยกัน ให้คนทั้งประเทศรู้มาได้เลย ผมพร้อมกับคุณมากๆ คุณอยู่ไหนเท่านั้นแหละ

แจ๊ส บอกว่า ตนเองอยากฝากบอกผู้ใหญ่ทุกคนว่า ตนเองไม่ทำอะไรเสื่อมเสียแน่นอน แต่ผมจะทำในสิ่งที่ถูกต้องที่ควรจะทำ ถ้ามีผลกระทบอะไรตรงไหนตนเองขอโทษด้วย ที่ตนเองออกมาพูดจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ได้ ตนเองอยู่กับความเป็นจริงมาตลอดชีวิต เรื่องรองเท้าตนเองตอนนี้ ใครที่เห็นเขาอยากให้ทุกคนช่วยแจ้งเบาะแสเพราะเขามีหมายจับให้นำไปสู่การจับกุม หรือก่อนถูกจับกุมจะออกมาพูดอะไรก่อนก็ออกมา

แจง บอกว่า สำหรับเรื่องรองเท้าตนเองดูครบหมดแล้วว่าใครเป็นคนซื้อขายมาจากทางไหน ต้องขอบคุณน้องที่เอารองเท้ามาคืนให้ มาแสดงความบริสุทธิ์ใจเพราะคุ้นๆ ไม่อยากมีเรื่อง เราต้องขอบคุณน้องด้วย โดยน้องผู้หญิงมาชี้แจงว่าเขาได้รองเท้ามาจากไหน และมีหลักฐานการซื้อขายในส่วนนี้ให้ตำรวจเป็นคนจัดการ