เมื่อวันที่ 29 มี.ค. ที่ สภ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร กสทช. ด้านกฎหมาย พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 พล.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขะ ผบก.ตม.6 พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) นายสุริยน ประภาสะวัต อัยการพิเศษ ฝ่ายการสอบสวน 1 พ.ต.อ.บัญชา ศรีสุข รอง ผบก.สอท.5 พ.ต.อ.ฐาปกรณ์ หนุมาศ ผกก.3 บก.สอท.5 แถลงผลการเปิดปฏิบัติการสนธิกำลังของตำรวจไซเบอร์ เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ตำรวจสืบสวน ภ.8 ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ กสทช. กว่า 100 นาย เข้าปูพรมตรวจค้นเป้าหมาย 4 จุดสำคัญ ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ในการทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนรายใหญ่ ที่ลักลอบตั้งฐานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกคนไทยและชาวจีน ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมขบวนการชาวจีนและผู้ร่วมขบวนการทั้งคนไทยและชาวจีน รวม 90 คน พร้อมตรวจยึดคอมพิวเตอร์เครื่อง และและอุปกรณ์ต่างๆ จำนวนมาก ทั้งนี้ ปฏิบัติการดังกล่าวเริ่มขึ้นตั่งแต่เที่ยงวันที่ 28 มี.ค. 67 ที่ผ่านมา
พล.ต.ท.ธัชชัย กล่าวว่า สืบเนื่องจากตำรวจไซเบอร์ เมื่อช่วงปลายปี 2566 ตรวจสอบพบมีเครือข่ายคนจีนจำนวนมาก มีการเคลื่อนไหวรวมตัวกันมาตั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพื่อหลอกลวงเอาทรัพย์สินจากคนจีนด้วยกัน ชาวญี่ปุ่น ชาวรัสเซีย และคนไทย ในพื้นที่ อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ทางชุดสืบสวน บก.สอท.5 จึงลงพื้นที่สืบหาข้อมูลและที่ตั้ง จนพบว่ามีกลุ่มชาวจีนมาเช่าห้องพักที่โรงแรมจินเฮง แอบลักลอบเปิดเป็นสำนักงานและฐานบัญชาการคอยสั่งการไปยังจุดย่อยอีก 3 จุด ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของ อ.ฉวาง โดยมีคนไทยอีกจำนวนมาก เข้ามาทำงานให้กับในขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในการโทรฯ ติดต่อหาเหยื่อ โดยการชักชวนให้เข้ามาร่วมลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล และเล่นพนันออนไลน์ในหลากหลายรูปแบบ รวมทั้งหลอกให้ซื้อสินค้า โดยมีการสร้างเพจและใช้อุบายต่างๆ หลอกให้เหยื่อโอนเงิน ทางเข้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลอาญา ออกหมายค้น ก่อนจับกุมผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดดำเนินคดีตามกฎหมาย
ในส่วนของชาวจีนที่ถูกจับกุมให้การอ้างว่า บุคคลที่โดนจับนั้นส่วนใหญ่จะเป็นพนักงานที่ดูแลส่วนต่าง ๆ ขณะที่นายทุนใหญ่ระดับสั่งการจะอยู่ในประเทศจีน โดยจะให้ชาวจีนด้วยกันเดินทางเข้าไทยโดยผ่านจากกัมพูชา บางคนก็ถือหนังสือเดินทางนักท่องเที่ยว พอรวมกลุ่มกันได้ ก็ตั้งแก๊งหลอกเหยื่อมานานเกือบปี มีการแบ่งหน้าที่กันเป็นระบบ ให้เงินค่าตอบแทนเฉลี่ยคนละ 40,000 บาท ขณะที่คนไทยทำงานเป็นพนักงาน จะได้ค่าตอบแทนเฉลี่ยเดือนละ 20,000 บาท.