พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร กสทช.ด้านกฏหมาย และประธานอนุกรรมการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยีฯ เปิดเผยว่า  จากนโยบายของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้เร่ง ปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ซึ่งสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก ทาง กสทช. จึงได้ร่วมกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ด.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผช.ผบ.ตร., พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช. สอท., พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 และ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ โดย พ.ต.ต. ยุทธนา แพรดำ รักษาการ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ บูรณาการในการทำงานร่วมกัน

 ซึ่งทำให้พบการเคลื่อนไหวของกลุ่มแก๊งค์ตอลเซ็นเตอร์ชาวต่างชาติในเขตพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช จึงได้ร่วมกันรวบรวมพยานหลักฐาน นำไปสู่การจับกลุ่มแก๊งต์คอลเซ็นเตอร์ที่เป็นชาวต่างชาติได้จำนวน 51 คน และชาวไทย 12 คน รวม 63 คน ยึดของกลางประกอบด้วย 1. คอมพิวเตอร์ จำนวน 192   เครื่อง 2. มือถือและซิมผี จำนวน 854 เครื่อง 3. Router กระจายสัญญาณ จำนวน 22 เครื่อง 4 .บัญชีม้า จำนวน 342 เล่ม ซึ่งเป็นการกระทำที่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ, พ.ร.บ.การทำงานของคนต่างด้าวฯ, พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี, พ.ร.บ.โทรคมนาคมฯ, พ.ร.บ.ศุลกากรฯ และ ประกาศ กสทช. เรื่อง การยืนยันตัวตนและข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการฯ และจะมีการขยายผลการกระทำผิดไปถึงทุกคนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งดำเนินการยึดทรัพย์อย่างเด็ดขาด

พล.ต.อ.ณัฐธร กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบข้อมูลการสื่อสารและการใช้อินเทอร์เน็ตก่อนเข้าทำการจับกุม  รวมทั้งการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลที่บันทึกไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ ประกอบการซักถามหลังการตรวจค้นจับกุมพบว่า มิจฉาชีพกลุ่มนี้ทำการติดต่อหลอกลวงเหยื่อหลากหลายวิธีในหลายประเทศ โดยวิธีการหนึ่งที่คนร้ายใช้ คือ จะทำการหลอกลวงเหยื่อผ่านช่องทาง Social media โดยเฉพาะแอป Telegram ใช้โทรศัพท์มือถือเป็นตัวกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตสื่อกลาง

 ซึ่งคนร้ายจะเชิญชวนเหยื่อให้ร่วมแนะนำ review โรงแรม, รีสอร์ท หรือ ที่พักต่างๆ แล้วแจ้งว่าได้รับรางวัลตอบแทนเป็นตั๋วเครื่องบินหรือที่พักฟรี และให้เหยื่อกรอกข้อมูลส่วนบุคคลต่างๆ พร้อมส่งข้อความแนบลิงค์ให้กดยืนยันเพื่อรับรางวัล เมื่อเหยื่อหลงกลกดลิ้งค์ก็จะเป็นการเริ่มการติดตั้งโปรแกรมเข้ามือถือ แล้วคนร้ายจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ก่อนหน้า ไปกระทำการเข้าถึงข้อมูลบัญชีธนาคาร mobile banking และหลอกดูดเงินเหยื่อในลำดับถัดไป หรือใช้วิธีการหลอกให้เหยื่อร่วมลงทุนด้วยวิธีต่างๆ

ในการนี้ชุดจับกุม ทั้งตำรวจ กสทช.และ ดีเอสไอ ได้ทำการรื้อถอนและตรวจยึดอุปกรณ์ทางเทคโนโลยี, คอมพิวเตอร์, โทรศัพท์มือถือ, รวมทั้งซิมการ์ด (ซิมผี) มากกว่า 1,300 ซิม ซึ่งไม่ได้ลงทะเบียนหรือลงทะเบียนไม่ถูกต้องตามกฎหมายและประกาศ กสทช.กำหนด ไปตรวจสอบทางเทคนิคเพื่อขยายผลไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป

พล.ต.ท.ธัชชัย กล่าวว่า  ในการแลกเปลี่ยนข้อมูล ติดตามตรวจสอบความเคลื่อนไหวของกลุ่มแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช  จีงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอหมายค้นพร้อมกัน 3  จุด ในพื้นที่ ต.จันดี อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช พบรังแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต่างชาติ จำนวน 3 แห่งใกล้เคียงและเชื่อมโยงกัน ประกอบด้วย โรงแรมและบ้านพักใน และขยายผลไปยัง โกดังจำหน่ายสินค้าญี่ปุ่นมือสอง ในพื้นที่ อ.นาบอน จ.นครศรีธธรมราช พบผู้ต้องหาและของกลางจำนวนมากตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น ถือเป็นองค์กรอาชญากรรมขนาดใหญ่ โดยในครั้งนี้ทางฑูตตำรวจจีนและญี่ปุ่น ได้เข้าร่วมตรวจสอบการกระทำผิดเพื่อนำไปสู่การขยายผลการกระทำผิดในประเทศจีนและญี่ปุ่นต่อไป