เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 30 มี.ค. พ.ต.ต.ชินกฤต สวัสดิวงศ์ สว.(สอบสวน) สภ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุฆ่าตายที่หลังวัดทุ่งหลวง ต.ทุ่งหลวง อ.เวียงสระ และชาวบ้านได้ช่วยกันจับกุมผู้ก่อเหตุไว้ได้ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ 

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านอยู่ในสวนปาล์มน้ำมัน สภาพยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ ที่พื้นปูนหน้าบ้านพบศพหญิง 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ นางจำปา  อายุ 73 ปี สภาพสวมเสื้อคอกระเช้า นุ่งผ้าถุงนอนคว่ำ ศีรษะถูกตัดขาดออกไป เลือดไหลนองพื้น ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อต่อมาคือนายณัฐพร อายุ 31 ปี เป็นลูกชายของผู้เสียชีวิต หลังก่อเหตุใช้มีดพร้าฟันศีรษะแม่จนขาดแล้ว ได้นำศีรษะออกไปจากที่เกิดเหตุ พร้อมกับใช้มีดพร้าเฉาะฟันไปตลอดทาง ก่อนทิ้งส่วนที่เหลือห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 400 เมตร ซึ่งต่อมาชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวได้ ขณะเดินอยู่ริมถนนชลประทาน หมู่ 16 ต.ทุ่งหลวง อ.เวียงสระ ห่างจากจุดเกิดเหตุไปประมาณ 1 กม. นำตัวไปสอบสวนที่ สภ.เวียงสระ

สอบสวนเบื้องต้น​ทราบว่า​ ผู้ตายอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว พร้อมกับลูกๆ ซึ่งเป็นผู้ชายทั้งหมด อีก 4 คน โดยผู้ก่อเหตุเป็นบุตรคนที่ 3 ก่อนเกิดเหตุมีผู้พบเห็นว่า ทั้ง 5 คน นั่งล้อมวงกันอยู่บนพื้นจุดเกิดเหตุ และจู่ๆ นายณัฐพร ก็ได้ลุกขึ้นใช้มีดพร้า พุ่งเข้าไปฟันคอนางจำปา จนศีรษะขาดทันที แล้วหยิบศีรษะของนางจำปา เดินออกไป โดยไม่ได้ทำร้ายบุคคลอื่น

ด้าน พ.ต.อ.ไพฑูรย์ จะกระจ่าง ผกก.สภ.เวียงสระ กล่าวว่า หลังควบคุมตัวนายณัฐพร ได้แล้ว ผู้ก่อเหตุไม่ได้แสดงอาการคลุ้มคลั่ง แต่มีอาการนิ่งเฉย และไม่ยอมพูดจา จึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเวียงสระ เพื่อทำการตรวจหาสารเสพติด และตรวจสอบอาการทางจิตเวช อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบประวัติผู้ก่อเหตุ พบว่ามีอาชีพรับจ้างทั่วไป แต่ไม่พบประวัติการกระทำความผิด และไม่ได้อยู่ในผู้ป่วยจิตเวช หรือผู้ป่วย ที่มีผลกระทบจากยาเสพติด ที่ สภ.เวียงสระ ได้ขึ้นบัญชีไว้ นอกจากนั้น ในการตรวจหาสารเสพติดในเบื้องต้น ได้รับรายงานจากแพทย์ว่าไม่พบสารเสพติดทั้งชนิดกัญชา และแอมเฟตามีนแต่อย่างใด ซึ่งแพทย์ได้ทำการเจาะเลือดเพื่อตรวจหาสารเสพติดในชั้นสูงต่อไป อย่างไรก็ตามในขณะนี้ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเวียงสระโดยแพทย์มีความเห็นให้ใช้ยานอนหลับกับผู้ต้องหาเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 24 ชั่วโมง จึงคาดว่าหลังจากนี้ จึงจะสามารถสอบสวนปากคำ เพื่อหาสาเหตุและแรงจูงใจในการก่อเหตุต่อไป

พ.ต.อ.ไพฑูรย์ กล่าวด้วยว่า ในการสอบสวนพยานในที่เกิดเหตุระบุว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ผู้ก่อเหตุได้ไปเที่ยวงานวัดทุ่งหลวง และดื่มสุราขาว จนเมามายและมีปัญหาทะเลาะกับภรรยา รุ่งเช้าจึงได้มาหาแม่ที่บ้านที่เกิดเหตุ โดยระหว่างนั้น ได้ด่าหลานซึ่งเป็นลูกของพี่ชาย แม่จึงได้ต่อว่า นายณัฐพร จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้นายณัฐพร ก่อเหตุสลดดังกล่าว