กรณีเจ้าของบ้านว่าง ไร้ผู้อาศัย โดนคนแปลกหน้ายึดเป็นที่อยู่แถมยัง “ไล่ไม่ยอมไป” ในสหรัฐกำลังเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ล่าสุด สองสามีภรรยาจากนิวยอร์กก็ต้องปวดเศียรเวียนเกล้าในทำนองเดียวกัน เมื่อบ้านสองชั้นมูลค่า 930,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 33.8 ล้านบาท) ในย่านควีนส์ นครนิวยอร์กของพวกเขา โดนคนแปลกหน้าบุกรุกและใช้เป็นที่อยู่อาศัย โดยอาศัยช่องโหว่ทางกฎหมายอสังหาริมทรัพย์ของนิวยอร์ก

จูลียา ฟูลแมน และ เดนนิส เคอร์เลียน สองสามีภรรยาผู้เป็นเจ้าของบ้านและกำลังอยู่ระหว่างสู้คดีกับพวกยึดบ้าน ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่ากรณีที่เกิดขึ้นกับบ้านของพวกเขามันเหลือเชื่อมาก “คนพวกนี้บุกรุกเข้ามาในบ้านของฉัน ในฐานะที่เป็นเจ้าของบ้าน มันไม่ยุติธรรมเลยที่ทางการไม่คุ้มครองพวกเรา” 

จูลียา ฟูลแมน และ เดนนิส เคอร์เลียน สองสามีภรรยาผู้เป็นเจ้าของบ้าน

ตามกฎหมายนิวยอร์ก จะมีอยู่ 5 เขตของเมืองที่แก๊งยึดบ้านพวกนี้สามารถบุกรุกและยึดบ้านใครก็ได้ เป็นเวลา 30 วัน ก่อนที่ทางการจะสามารถเริ่มดำเนินการขับไล่ตามกฎหมาย

เคอร์เลียน สามีของ ฟูลแมน มองว่าทางการจำเป็นจะต้องทำอะไรสักอย่างได้แล้ว เพราะปัญหานี้มีแต่จะเลวร้ายลงเรื่อย ๆ เจ้าของบ้านหลายคนกำลังโดนเอาเปรียบจากผู้ที่อาศัยช่องโหว่จากกฎหมายนี้โดยที่ไม่สามารถทำอะไรผู้บุกรุกได้เลย

ก่อนหน้านี้ สองสามีภรรยาลงทุนไป 530,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 20 ล้านบาทเพื่อปรับปรุงบ้านหลังนี้เสียใหม่เพื่อปล่อยให้เช่า แต่ อีโจนา บาร์ดี ตัวแทนผู้ดูแลบ้านของพวกเขากลับพบว่ามีผู้บุกรุกบ้านเมื่อวันที่ 5 มี.ค. 2567 หนำซ้ำยังมีการเปลี่ยนล็อกกุญแจของบ้านอีกด้วย

บ้านที่สองสามีภรรยาลงทุนปรับปรุงใหม่เพื่อให้เช่า แต่โดนบุกรุกเสียก่อน

หลังจากแจ้งว่ามีการเปลี่ยนกุญแจล็อกบ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต บาร์ดี กลับไปที่บ้านหลังนั้นและแอบมองผ่านหน้าต่างไปเห็นชายคนหนึ่งในชุดเสื้อคลุมมีฮู้ดกำลังถือสว่านเจาะ และเมื่อเธอเดินกลับไปที่รถเพื่อแจ้งตำรวจ ก็มีชายหลายคนออกมาจากบ้านและล้อมรถของเธอที่จอดไว้หน้าบ้านและพยายามข่มขู่เธอ

เมื่อตำรวจมาถึงบ้านหลังที่เกิดปัญหา ผู้บุกรุก 2 คนซึ่งต่อมาระบุชื่อได้ว่าคือ แลนซ์ ฮันต์ ซีเนียร์ และ รอนดี แอล. ฟรานซิส อ้างว่าพวกเขาเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ตั้งแต่เดือน ม.ค. 2567 แต่ไม่สามารถหาหลักฐานมายืนยันได้ อย่างไรก็ตาม พวกเขายอมออกจากบ้าน โดยที่ บาร์ดี และเจ้าของบ้านตัวจริงแจ้งตำรวจว่าพวกเขาจงใจเปลี่ยนล็อกกุญแจบ้าน เจ้าหน้าที่จึงสำทับไปว่าถ้าหากพิสูจน์ได้ว่าพวกเขาทำเช่นนั้นจริง ก็จะต้องโดนจับกุม

ผู้บุกรุกทั้งสองกลับมาที่บ้านหลังเดิมในวันต่อมา โดยนำเอกสารที่อ้างว่าเป็นสัญญาให้เช่าบ้านซึ่งมีลายเซ็นของ บาร์ดี แต่ ฟูลแมน และ เคอร์เลียน ก็เชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจมารอพบพร้อมกับเอกสารแสดงความเป็นเจ้าของบ้านอย่างถูกต้อง รวมทั้งคลิปวิดีโอที่บันทึกภาพแสดงวันและเวลาที่บ้านหลังดังกล่าวยังคงว่าง ไม่มีผู้เช่าอาศัย

หลังจากตำรวจพาผู้บุกรุกทั้งสองออกไป สองสามีภรรยาเจ้าของก็จัดการเปลี่ยนล็อกกุญแจเสียใหม่ แต่เมื่อพวกเขาเข้าไปสำรวจภายในบ้านก็พบว่าตัวบ้านได้รับความเสียหายและสกปรกจากการเข้ามาอยู่ในบ้านของผู้บุกรุก นอกเหนือไปจากกลิ่นกัญชาที่อบอวลไปทั้งบ้าน

แต่เรื่องยังไม่จบง่าย ๆ เมื่อ 10 วันหลังจากนั้น บาร์ดี ได้รับหมายศาลที่แจ้งว่า ผู้บุกรุกทั้งสองยื่นฟ้องร้องโดยมีเธอและสองสามีภรรยาเจ้าของบ้านเป็นจำเลย รวมทั้งบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นผู้ดูแลบ้าน 

ผู้บุกรุกได้รับสิทธิพิเศษในการดำเนินคดีแบบเร่งด่วน และไปปรากฏตัวที่ศาลแพ่งประจำเขตควีนส์ โดยที่ทนายความของฝ่ายเจ้าของบ้านได้กล่าวหาว่าฝ่ายโจทก์ใช้เอกสารที่ปลอมแปลงขึ้นเพื่ออ้างสิทธิในการอยู่อาศัย ซึ่งมีร่องรอยของการใช้โปรแกรมตกแต่งภาพอย่างชัดเจน แม้ทนายความฝ่ายโจทก์จะยืนยันว่าเอกสารทุกอย่างเชื่อถือได้

กำหนดการพิจารณคดีครั้งต่อไปคือวันที่ 5 เม.ย. 2567 ระหว่างนี้ฝ่ายเจ้าของบ้านได้ร้องขอต่อศาลให้ผู้เช่าบ้านตัวจริงสามารถย้ายเข้าบ้านได้เลย แต่ศาลไม่อนุญาต และต้องรอให้คดียุติเสียก่อน

เคอร์เลียน โอดครวญว่ากฎหมายไม่เห็นใจเจ้าของบ้าน พวกเขาอาจต้องรอเป็นปี ๆ กว่าจะขับไล่ผู้บุกรุกออกไปจากบ้านได้ พวกเขาต้องพบเรื่องยุ่งยากวุ่นวายและเสียเงินเสียทองเพียงเพราะมีคนแปลกหน้าบุกรุกเข้าไปอยู่อาศัยในบ้านของพวกเขา ซึ่งไม่ใช่ความผิดของพวกเขาเลยแม้แต่น้อย

ที่มา : nypost.com

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES