นายบดินทร์ พุทธอินทร์ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา ทางด้านผู้ถือหุ้นรายใหญ่ Saudi National Bank ที่ถือหุ้นใน Credit Suisse ประมาณ 9.9% ประกาศว่าจะไม่เพิ่มการลงทุนในบริษัทเนื่องจากจะทำให้ทาง Saudi National Bank ถือหุ้นเกิน 10% ซึ่งเป็นระดับที่จะมีกฎระเบียบต่าง ๆ เข้ามาบังคับใช้เพิ่มเติมไม่ว่าจะจากทั้งหน่วยงานของทางซาอุฯ ทางสวิสฯ หรือทางยุโรป

ซึ่งทาง Saudi National Bank ไม่อยากมีความยุ่งยากในตอนนี้ ส่งผลให้นักลงทุนกังวลว่า อนาคตของบริษัทอาจดูไม่ดีหนัก ประกอบกับเพิ่งเผชิญกับการล้มละลายของธนาคารในสหรัฐ อย่าง SVB และ Silvergate ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้มีแรงเทขายออกมา หากนับจากจุดสูงสุดของปี 2022 ราคาหุ้นของ Credit Suisse ลดลงกว่า 85%

ทั้งนี้ ถ้าไปดูจากผลประกอบการของ Credit Suisse จะพบว่าทางธนาคารได้ขาดทุนมาแล้ว 5 ไตรมาสติดต่อกันตั้งแต่ ไตรมาส 4/2021 จนถึงไตรมาส 4/2022 อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บอกว่าหลังจากมีการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่แล้ว ทางธนาคารมีโอกาสกลับมามีกำไรได้ในปี 2025 ซึ่งสอดคล้องกับที่ซีอีโอของบริษัทที่ออกมากล่าวเช่นกัน ขณะที่ถ้าเราไปดูอัตราส่วน Tier 1 Capital Ratio จะพบว่าทาง Credit Suisse มีสัดส่วนดังกล่าวอยู่ที่ 14.10% ซึ่งถือว่าสูงกว่าเกณฑ์ของ Basel 3 ที่กำหนดไว้ที่ 8% สะท้อนว่า บริษัทยังคงมีเงินทุนสำรองอยู่ในระดับสูงอยู่

อย่างไรก็ตาม ถ้าไปดูขนาดของ Credit Suisse จะพบว่า เป็นธนาคารที่ใหญ่เป็นอัน 2 ของสวิสเซอร์แลนด์ และเป็นอันดับที่ 17 ของยุโรป หากมองในแง่ผลกระทบที่เกิดขึ้น กรณีล้มละลายขึ้นมาจริง ๆ ผลกระทบอาจจะรุนแรงกว่ากระณีของ SVB ค่อนข้างมาก เนื่องจาก Credit Suisse เป็นธนาคารที่มีธุรกรรมในต่างประเทศค่อนข้างเยอะ รวมถึงสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการสูงถึง 1.6 ล้านล้านฟรังก์สวิส หรือคิดเป็นเกือบ 10% ของ GDP ของ EU ส่งผลให้ Credit Default Swap (CDS) อายุ 1 ซึ่งเปรียบเสมือนค่าเบี้ยประกันหาก Credit Suisse ผิดนัดชำระ ตอนนี้สูงขึ้นไปถึง 3,700 bps

ทางทีมกลยุทธ์การลงทุนมีมุมมองว่า Credit Suisse มีขนาดใหญ่และมีผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเงินของประเทศสวิสเซอร์แลนด์และของยุโรป เชื่อว่าธนาคารกลางสวิสเซอร์แลนด์ต้อง เข้ามาช่วยในเรื่องนี้ ขณะที่ทางเลือกของ Credit Suisse ยังมีได้ตั้งแต่ 1.การเพิ่มทุนจากนักลงทุนรายอื่น ๆ นอกเหนือทาง Saudi National Bank 2.ขายสินทรัพย์เพิ่มเติม 3.ขายกิจการให้กับ UBS (CEO UBS ยังปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในเรื่องนี้) 4.ขอความช่วยเหลือจาก Swiss National Bank

ล่าสุด ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ ได้ออกแถลงถึงกรณี Credit Suisse ยังมีสภาพคล่องเพียงพอ และหากจำเป็นธนาคารกลางฯ เองก็พร้อมให้สภาพคล่องเพื่อช่วยเหลือ ซึ่งเราประเมินว่า Credit Suisse เข้าข่าย Too Big To Fail และมีความสำคัญต่อระบบการเงินของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และยุโรป หากปล่อยให้เหตุการณ์บานปลาย มีโอกาสส่งผลลามเป็นวิกฤติการเงินในยุโรปอีกครั้ง

ขณะที่ในช่วงเช้าวัน16 มีนาคม 2023 ทางธนาคาร Credit Suisse ได้แถลงว่า ได้เข้ากู้ยืมเงินทางธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ เป็นวงเงิน 5.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเป็นสภาพคล่องให้กับธนาคาร รวมถึงประกาศอีกว่าธนาคารกำลังทำ tender offer อีกเช่นกันเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับนักลงทุน.