เมื่อวันที่ 1 เม.ย. นายมานชัย วัฒนการัณย์ และนายศราวุธ ไทรสังข์สิริพงศ์ ชาวอำเภอสังขละบุรี เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่บ้านซองกาเลีย ม.8 ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อสำรวจอุโมงค์ที่คาดว่าน่าจะถูกขุดขึ้นมาในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อครั้งที่กองทัพญี่ปุ่น เกณฑ์เชลยศึกและกรรมกรมาสร้างทางรถไฟสายมรณะ สถานีจากหนองปลาดุ (ไทย) -สถานีตันบูชายัต (พม่า) โดยอุโมงค์ดังกล่าวตั้งอยู่ริมถนนสาย 323 สังขละบุรี-ด่านเจดีย์สามองค์ อยู่บนเนินเขาห่างจากถนนประมาณ 100 เมตร

อุโมงค์ที่พบมีความกว้างประมาณ 2 เมตร สูง 180-190 เซนติเมตร ยาวประมาณ 35 เมตร เป็นอุโมงค์ที่เจาะทะลุเนินเขาเพื่อเชื่อมไปยังพื้นที่ด้านหลังซึ่งเป็นพื้นที่ป่าที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ ภายในอุโมงค์มีอุณหภูมิที่เย็นสบาย ประมาณ 24-25 องศาฯ อากาศถ่ายเทได้ดี มีลมพัดเย็นสบาย เป็นอุโมงค์ที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยมนุษย์ (เชลยศึก) เนื่องจากมีร่องรอยการใช้อีเตอร์ ชะแลง และจอบในการขุด ซึ่งอุโมงค์ดังกล่าวยังอยู่ในลักษณะที่ค่อนข้างสมบูรณ์ พบการถล่มของดินเฉพาะบริเวณปากอุโมงค์ทั้ง 2 ด้านของเนินเขา

คาดว่าน่าจะใช้เป็นที่หลบภัยสำหรับป้องการการโจมตีทางอากาศในช่วงการก่อสร้างทางรถไฟจากบ้านซองกาเลีย-ด่านเจดีย์สามองค์ และน่าจะมีการใช้งานอุโมงค์ในช่วงสงคราม เนื่องจากพบคราบของควันติดอยู่ผนังอุโมงค์ในส่วนที่เจาะผนังเข้าไปสำหรับเป็นที่วางตะเกียง เพื่อเป็นไฟส่องสว่างภายในอุโมงค์ ส่วนหนึ่งที่ทำให้อุโมงค์ยังคงมีความแข็งแรงเนื่องจากการออกแบบการขุดภายในอุโมงค์ให้มีลักษณะคล้ายเสาทุกระยะ 2 เมตร ตลอดภายในอุโมงค์ ประกอบกับพื้นดินบริเวณที่ขุดอุโมงค์เป็นชั้นดินดานที่มีความแข็งกว่าดินทั่วไป

ด้านนายมานชัย วัฒนการัณย์ และนายศราวุธ ไทรสังข์สิริพงศ์ ชาวอำเภอสังขละบุรีที่สนใจศึกษาเส้นทางรถไฟมรณะในพื้นที่อำเภอสังขละบุรี เผยอีกว่า อุโมงค์ดังกล่าวเป็นที่รู้จักของคนในพื้นที่บางกลุ่มที่มีความสนใจ แต่ยังไม่เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าทำการสำรวจ ศึกษา เพื่อทำการอนุรักษ์ และพัฒนาให้เป็นสถานที่เรียนรู้และท่องเที่ยวให้แก่เยาวชน ประชาชนและนักท่องเที่ยว เพื่อเป็นการอนุรักษ์และสร้างรายได้ให้คนในพื้นที่ต่อไป

ขณะที่ นายพนม โพธิ์แก้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกาญจนบุรี เขต 5 เตรียมลงพื้นที่ในเดือนเมษายนนี้ เพื่อสำรวจอุโมงค์ดังกล่าว และจะดำเนินการหาแนวทางพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและเป็นแหล่งเรียนรู้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวต่อไป