วันที่ 2 เม.ย. ที่สำนักงาน กสทช. นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (ประธาน กสทช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ด กสทช. มีมติเอกฉันท์ 7 ต่อ 0 เห็นชอบให้การตัดรายการฟุตบอลโลก ออกจากหลักเกณฑ์รายการโทรทัศน์สำคัญที่ให้เผยแพร่ได้เฉพาะในบริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป พ.ศ. 2555 (ประกาศมัสต์แฮฟ) ที่ระบุให้รายการกีฬา 7 ประเภท ประกอบด้วย ซีเกมส์, อาเซียนพาราเกมส์, เอเชียนเกมส์, เอเชียนพาราเกมส์, โอลิมปิกเกมส์, พาราลิมปิกเกมส์ และ ฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย โดยต้องนำทั้ง 7  รายการ มาเผยแพร่ผ่านทางโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป (ภาคพื้นดิน) เป็นอันดับแรก 

ทั้งนี้แต่ยังคงให้เหลือเฉพาะรายการกีฬา 6 ประเภท ประกอบด้วย ซีเกมส์, อาเซียนพาราเกมส์, เอเชียนเกมส์, เอเชียนพาราเกมส์, โอลิมปิกเกมส์,  พาราลิมปิกเกมส์ เท่านั้นที่ยังคงอยู่ในกฎมัสต์แฮฟ

นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์

ด้าน ดร.พิรงรอง รามสูต กสทช. (ด้านกิจการโทรทัศน์) กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ บอร์ดมีแนวคิดจะยกกเลิกกฎมัสต์แฮฟเลย แต่เมื่อนำมารับฟังความคิดเห็นแล้ว มีข้อแนะนำจากสังคม และคนบางกลุ่ม เช่น ผู้พิการ ว่า ไม่ควรยกเลิกทั้งหมด ควรตัดเฉพาะบางกีฬา หรือฟุตบอลโลกเท่านั้น ทางบอร์ด จึงนำเรื่องนี้มาพิจารณาใหม่ และมีมติตัดเฉพาะ ฟุตบอลโลก เนื่องจาก ฟุตบอลโลก เป็นรายการกีฬาที่มีมูลค่าการตลาดสูง ควรปล่อยให้เอกชนเป็นผู้ซื้อลิขสิทธิ์ เพื่อนำมาเผยแพร่ และทำการตลาดในภาคธุรกิจได้ หากมีกฎมัสต์แฮฟ เอกชน บังคับให้ออกอากาศทั่วไป ทำให้เอกชนจะไม่กล้าลงทุนไปซื้อลิขสิทธิ์ ซึ่งการให้เอกชนเป็นผู้ซื้อลิขสิทธิ์ได้ เพื่อไม่ต้องให้ภาครัฐต้องเข้าไปสนับสนุนเงินในการซื้อลิขสิทธิ์ด้วย

ดร.พิรงรอง รามสูต

อย่างไรก็ตาม ตามกฎของฟีฟ่า ก็มีข้อกำหนดให้ผู้ซื้อลิขสิทธิ์ต้องนำคอนเทนต์บางส่วนต้องมาออกฟรีทีวีอยู่แล้ว 200 ชั่วโมง สำหรับ การคงกีฬา 6 ชนิดไว้ เพราะเป็นกีฬาที่มีคนไทยเข้าร่วมแข่งขันด้วย ซึ่งควรจะให้คนไทยสามารถเข้าถึงการรับชมได้ และเพื่อเป็นการให้สิทธิกับคนด้อยโอกาสในส้งคม เช่น กลุ่มผู้พิการ ที่จะเข้ารับชมได้อย่างทั่วถึงด้วย