เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 3 เม.ย. ที่รัฐสภา คณะกรรมการประสานงานร่วม สภาผู้แทนราษฎร (วิป 3 ฝ่าย) ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2  เป็นประธานในที่ประชุม เพื่อหารือเรื่องกรอบเวลาในการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 หลังวิปรัฐบาลเสนอปรับเวลาอภิปราย ให้ฝ่ายค้านเหลือ 18 ชั่วโมง จาก 22 ชั่วโมง และรัฐบาล 10 ชั่วโมง จากเดิม 6 ชั่วโมง ซึ่งมีตัวแทนจาก คณะรัฐมนตรี วิปรัฐบาล  วิปฝ่ายค้าน เข้าร่วม  

โดยวิปฝ่ายค้าน ส่งนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และนายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ขณะที่นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ไม่ได้มาร่วมประชุมด้วย

นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะวิปรัฐบาล กล่าวว่า ภายหลังจากการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 153 ของ สว. ซึ่งรัฐมนตรีมีเวลาชี้แจงน้อยไป เพราะเวลาการอภิปรายและเวลาการชี้แจงไม่สมดุลกันนั้น ได้มีการหารือกันภายในวิปรัฐบาลว่า หากอยากให้รัฐมนตรีมีเวลาชี้แจงเพียงพอ ก็ควรปรับเวลา เพราะบางข้อซักถาม รัฐมนตรีมีเวลาชี้แจงแค่ 2 นาที ก็คงไม่ได้เนื้อความตามที่สมาชิกซักถาม หรือมีข้อเสนอแนะ ดังนั้นเราจึงกลับมาทบทวน และมีการประชุมเพื่อหารือถึงความเหมาะสมของเวลาคือเท่าไหร่ เมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งฝ่ายค้านไม่ได้มาประชุมนั้น จึงมานัดประชุมใหม่ในวันนี้

“อยากให้เวลาสมดุล ระหว่างผู้ถามและผู้ตอบ ตามข้อบังคับ การตั้งกระทู้ถาม คนถามมีเวลาถาม 15 นาที คนตอบก็มีเวลาตอบ 15 นาที ต้องสมดุลกันด้วย ไม่ใช่คนอภิปราย ถาม หรือซัก รัฐมนตรีไป 10 กว่าชั่วโมง รัฐมนตรีตอบ 3 ชั่วโมง มันก็ไม่สมดุลกัน จึงคิดว่าการเหลื่อมเวลาให้สมดุล จะได้ยุติธรรมสำหรับรัฐมนตรี รัฐบาล และประชาชนจะได้รับข้อมูลจากทั้งสองฝ่ายด้วย” นายอัครเดช กล่าว

ด้านนายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงการประชุมในครั้งแรกว่า ในตอนแรกฝ่ายค้านขอเวลาอภิปราย 3 วัน แต่ประธานวิปบอกว่า 2 วันเหมือนเดิม ซึ่งก็ได้ข้อสรุปร่วมกันว่า ฝ่ายค้าน 22 ชั่วโมง ฝ่ายรัฐบาล 6 ชั่วโมง ประธาน 2 ชั่วโมง เนื่องจากทุกคนเห็นว่า ถ้ารัฐบาลตอบไม่พอก็อาจจะไปใช้เวลาของประธาน แต่หลังจากมีมติออกไป ตนก็เพิ่งทราบข่าวว่า รัฐบาลจะขอตัดเวลาฝ่ายค้าน 4 ชั่วโมง  ถ้าสภาไม่มีหลักการ เลื่อนอยู่ตลอด ต่อไปก็เลื่อนได้ ถามว่าการชี้แจงของรัฐบาล 6 ชั่วโมงเพียงพอหรือไม่นั้น ถ้าให้เวลาพูดก็คงไม่มีใครพูดพอ แต่รัฐบาลต้องไปหาวิธีชี้แจง เพื่อให้ประชาชนเข้าใจให้ได้ ถ้ารัฐบาลจะขอเวลาชี้แจงเพิ่ม ก็ขยายเป็น 3 วัน

ด้านนายพริษฐ์ กล่าวว่า การตกลงระหว่างวิปฯ ไม่ได้ประชุมกันคร่าวๆ แต่เป็นการลงรายละเอียด ออกเป็นบันทึกการประชุมและก่อนที่จะได้ตัวเลขออกมาที่ประชุมได้มีการย้อนดูว่าในอดีตใช้เวลาเท่าไหร่ เข้าใจว่ามีข้อมูลใหม่เข้ามา จึงต้องทำให้จัดสรรเวลาเพิ่ม ทั้งนี้หากเกิดปัญหาจริง ก็อยากให้แก้ไขให้ตรงจุด ถ้ารัฐบาลติดใจเรื่องเวลาไม่พอชี้แจง ก็ว่ากันไป ไม่ใช่มาลดเวลาฝ่ายค้านและเราไม่มีปัญหา หากต้องเปิดอภิปรายเพิ่มอีก 1 วัน

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปรัฐบาล กล่าวแย้งว่า หลังจากที่ได้ตกลงกัน พรรคร่วมรัฐบาลได้เห็นว่า เวลาไม่พอชี้แจง ซึ่งการไม่มีโอกาสได้ชี้แจง ก็เท่ากับเสียหาย วันนี้มาประชุมเพื่อหาทางออก

“ผมว่าถ้าไม่ลดราวาศอก ไม่ปรับเข้ามาหาความสมดุล ถ้าตั้งป้อมแบบนี้ ว่าจะเอา 22 ชั่วโมง ผมก็จะเอา 14 ชั่วโมง เดี๋ยวเข้าไปประชุมในห้องใหญ่ แล้วโหวตกัน เราอยู่ด้วยกันอีก 4 ปี ยังต้องเจรจากัน ถ้าเป็นแบบนี้ก็รับไม่ได้เหมือนกัน หากผมกลับไป สมาชิกก็จะต่อว่า ผมขอย้ำว่าเราไม่ใช่ศัตรูกัน แต่หารือบนพื้นฐานข้อเท็จจริง” นายวิสุทธิ์ กล่าว

ต่อมานายพิเชษฐ์  ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมร่วมกันของวิปทั้ง 3 ฝ่ายว่า การอภิปรายวันแรกจะจบ ในเวลาตี 2 ส่วนในวันที่ 2 จะจบภายในเวลาเที่ยงคืน ถือว่าได้เวลาเพิ่ม 2 ชั่วโมง โดยฝ่ายค้านจะได้เวลา 22 ชั่วโมงเท่าเดิม ส่วนรัฐมนตรีก็ขอให้ตอบเต็มที่ ทั้งนี้หากเป็นการถาม-ตอบในที่ประชุมเยอะ  ประธานสภาทั้ง 3 คนก็จะพยายามบริหารเวลา ส่วนเวลาที่เกินเลยไปทางประธานฯ ในที่ประชุมจะพยายามบริหารให้การประชุมเรียบร้อย

เมื่อถามว่า มีการเปลี่ยนแปลงเวลาให้รัฐบาลเป็นเท่าไหร่ นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า แล้วแต่รัฐมนตรี อาจจะถึง 10 ชั่วโมงก็ได้ ให้ตอบไปเรื่อยๆ เพื่อให้ประชาชนได้เข้าใจ คิดว่าคงจบได้ภายใน 2 วัน แม้อาจจะเลยเวลานิดหน่อย แต่ยืนยันว่าทางประธานฯ จะดูแลและแก้ปัญหาให้ จะได้ไม่มีการทะเลาะกันในสภา

เมื่อถามย้ำว่า วิปทั้ง 3 ฝ่ายตกลงโอเคกันแล้วใช่หรือไม่ นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า “ครับ”.