ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่เป็นข่าวในช่วงที่ผ่านมาว่า กากแคดเมียมจากโรงงานในจังหวัดตากจำนวน 13,000 ตันเศษ ถูกขนออกจากพื้นที่ และพบกากแคดเมียมที่โรงงานใน อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จำนวนประมาณ 2,500 ตัน ที่เหลืออีกกว่า 10,000 ตัน ไม่พบในบริเวณโรงงาน และเมื่อวันที่ 6 เม.ย. กระทรวงอุตสาหกรรม และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้พบกองกากแคดเมียม อีกกว่า 6,000 ตัน ในโกดังแถวคลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ซึ่งตรวจสอบแล้วมาจากแหล่งเดียวกันกับที่โรงงานในสมุทรสาคร โดยได้ทำการยึดอายัด และแจ้งความดำเนินคดี ไปแล้วนั้น

น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้ชี้แจงว่า กากสังกะสีปนแคดเมียมดังกล่าวถือเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ภายใต้ พ.ร.บ.วัตถุอันตราย ผู้ที่ครอบครองโดยผิดกฎหมายจะถูกดำเนินคดี นั้น ล่าสุด เมื่อเช้าวันที่ 7 เม.ย. กระทรวงอุตสาหกรรม โดยสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร ได้สนธิกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง และ บก.ปทส. เข้าตรวจสอบโรงงานแห่งหนึ่งในตำบลบางน้ำจืด สมุทรสาคร ซึ่งประกอบกิจการหล่อหลอมทองแดง และตะกอนทองแดง พบกองกากแคดเมียม กระจายอยู่ทั้งในและนอกอาคาร จำนวนกว่า 1,000 ตัน ซึ่งได้ทำการยึดอายัด และแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับโรงงานดังกล่าวด้วยแล้ว

นอกจากนี้ ยังได้สั่งให้โรงงานเคลื่อนย้ายกองกากเข้าไปในอาคารทั้งหมด เพื่อไม่ให้มีการฟุ้งกระจายของกากแคดเมียม ขณะเดียวกันทางสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร ยังได้แบ่งทีมเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบโรงงานอีกแห่งในพื้นที่นาโคก สมุทรสาคร คาดว่า จะมีกองกากแคดเมียม เช่นเดียวกัน

น.ส.พิมพ์ภัทรา กล่าวว่า จากการตรวจสอบและยึดอายัดกากแคดเมียมในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา นับจำนวนได้เกือบ 10,000 ตัน คิดเป็น 70% ของจำนวนกากแคดเมียมทั้งหมดที่ขนมาจาก จ.ตาก มาไว้ที่ จ.สมุทรสาคร โดยตนได้มอบให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดเร่งตรวจสอบในพื้นที่อื่นๆ ทั้งในสมุทรสาคร และจังหวัดใกล้เคียงที่คาดว่าจะมีการจัดเก็บ เพื่อรอการแปรสภาพหรือขนส่งไปที่อื่น และเคลื่อนย้ายกากแคดเมียมที่ยึดอายัดทั้งหมดกลับไปฝังกลบที่เดิมโดยเร็ว ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนคลายความวิตกกังวล