สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 7 เม.ย. ว่าทางการแคว้นโอเรนเบิร์กของรัสเซีย ซึ่งมีพรมแดนติดกับคาซัคสถาน และตั้งอยู่บนเทือกเขาอูราล รายงานการอพยพประชาชนอย่างน้อย 4,402 คน ในจำนวนนี้ 1,100 คน เป็นเด็ก ออกจากบ้านเรือนมากกว่า 6,000 แห่ง ในพื้นที่ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เนื่องจากเขื่อนแตกที่เมืองออร์สก์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของภูมิภาค ส่งผลให้มวลน้ำมหาศาลไหลทะลักเข้าสู่พื้นที่ชุมชน และมีการเตือนด้วยว่า อาจต้องมีการอพยพมากกว่านี้ “หากจำเป็น”
ด้านทำเนียบเครมลินออกแถลงการณ์ ว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย สั่งให้นายอเล็กซานเดอร์ คูเรนคอฟ รมว.สถานการณ์ฉุกเฉิน ลงพื้นที่ และให้มีการสืบสวนสอบสวนเกี่ยวกับ “ความบกพร่องและความประมาท” จากการละเมิดกฎหมายในการก่อสร้างเขื่อนแห่งนี้ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อปี 2557
The situation in Orsk, Russia, has become dire as the city can only be navigated by boat, trapping residents inside their apartments
— NEXTA (@nexta_tv) April 7, 2024
This situation follows a dam breach that occurred earlier in the city. pic.twitter.com/WVRvSX2IS1
Drone footage captures flooded areas of Russia's Orsk following dam breach pic.twitter.com/TSTbhN5ZzY
— PressTV Extra (@PresstvExtra) April 7, 2024
ขณะที่รัฐบาลคาซัคสถานเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้น อนึ่ง ภูมิภาคหลายแห่งบนเทือกเขาอูราลเผชิญกับน้ำท่วม ตั้งแต่ช่วงต้นของฤดูใบไม้ผลิปีนี้ เนื่องจากภาวะโลกร้อนส่งผลให้ธารน้ำแข็งบนเทือกเขาอูราลละลายมากและเร็วกว่าปกติ.
เครดิตภาพ : AFP