เมื่อวันที่ 11 เม.ย. รายการโหนกระแสวันนี้ พูดคุยกันจากกรณีข่าวฉาว สามีตามจับชู้ถึงบ้าน พบภาพคาหนังคาเขา ภรรยาซึ่งเป็นนักการเมือง นอนบนเตียงอยู่กับพระหนุ่มที่เพิ่งรับเป็นลูกบุญธรรม
คุณติ สามีผู้ที่ไปเจอเหตุการณ์นี้ มาเปิดใจในรายการว่า ตนทำงานเป็นผู้ติดตามผู้ใหญ่คนหนึ่ง ได้รู้จักกับภรรยาจากการไปทำบุญแล้วพบกัน มีการพูดคุยกันถูกคอ และสานสัมพันธ์กันเรื่อยมา จนตกลงปลงใจหมั้นหมายกันเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2565 ตนย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านกับเขา ใช้ชีวิตฉันสามีภรรยากันเรื่อยมา แต่ยังไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน
สำหรับอดีตพระมหารูปนี้ ทราบว่าภรรยารู้จักกับเขามาก่อนตน รู้จักจากการที่ภรรยาเคยไปเป็นประธานกฐิน ไปทอดที่วัดที่อดีตพระมหารูปนี้อยู่ก็เลยรู้จักกันตั้งแต่นั้นมา แต่ภรรยาบอกว่าไม่ได้ติดต่อกันมาหลายปี
แต่โดยส่วนตัวแล้ว ภรรยาเขาเชื่อเรื่องอดีตชาติ เชื่อเรื่องภพชาติ ชอบดูดวง ตามหาพระอาจารย์ หมอดูดังๆ ชอบมาก เสาะหาทุกหมอดูดวง ตามหาว่าตัวเองเป็นใครในชาติที่แล้ว โดยภรรยาเชื่อว่า ในอดีตชาติตัวเองเคยเป็น “นางห้าม” หรือเป็นหญิงในวังที่ห้ามยุ่ง รอถวายตัวต่อพระเจ้าแผ่นดิน นี่เป็นสิ่งที่ตนได้ยินเขาพูดมาตลอด
ต่อมามีหมอดูบอกเขาว่า ให้ไปตามหาพระ 2 รูปที่เคยรู้จัก ให้กลับไปทำบุญกับเขา เพราะดวงเกื้อหนุนกัน จะทำให้ชีวิตภรรยาดีขึ้น ภรรยาตนก็เชื่อ แล้วไปตามหา พูดคุยกับอดีตพระมหารูปนี้ทางโซเชียล และมีการไปทำบุญกับเขาเรื่อยมา ทั้งไปทำที่วัด ทั้งนิมนต์มาทำบุญที่บ้าน
เมื่อได้ทำบุญใกล้ชิดกัน คุณติ ทราบว่าพระมหารูปนี้เป็นลูกกำพร้า มีพ่อพราหมณ์รับมาดูและให้บวชพระตั้งแต่ยังเด็ก ด้วยใจสงสารคุณติก็เลยไปขอพระมหาว่า จะขอรับพระมหาเป็นลูกบุญธรรมได้ไหม จะได้ดูแลกัน ภรรยาก็บอกว่าดีแล้ว แต่ตัวเขาขอไม่เป็นแม่บุญธรรม ให้คุณติลงนามทำเรื่องเป็นพ่อบุญธรรมเพียงฝ่ายเดียว
ต่อมา อดีตพระมหารูปนี้ แนะนำให้ภรรยาตนไปหาพระครูบารูปนี้ ที่เป็นครูบาชื่อดัง มีญาณระลึกอดีตชาติได้ ก็ไปตามที่เขาแนะนำ หลังภรรยาไปสนทนากับครูบา เขาก็มาบอกตนว่า เขารู้แล้วว่าตัวเขาเป็นใครในอดีตชาติ ครูบาบอกเขาแล้ว แต่ภรรยาไม่ยอมบอกว่าเขาเป็นใคร
หลังจากนั้น ครูบารูปเดิมก็แนะนำให้ภรรยาตนไปที่ดอยสะเด็ด ไปพบหมอดูที่เป็นแม่บุญธรรมของครูบา ตอนที่เข้าไปฟังหมอดูคนนี้ ตนจะไม่ได้เข้าไปร่วมรับฟัง เวลาไปฟังจะมีแค่ตัวภรรยา พระมหา และหมอดูเท่านั้น แต่ตอนนั้นตนก็มองว่าเป็นเรื่องความเชื่อ ก็ไม่ได้เอะใจอะไร
หลังจากเกิดเรื่อง ตนเพิ่งมาทราบเรื่องทีหลัง ว่ามีคนไปเจอเหตุการณ์แปลกๆ ระหว่างเมียตนกับพระ แต่เขาไม่เคยกล้ามาบอก อย่างตอนที่ไปต่างจังหวัด ไปพักที่รีสอร์ท ตนออกไปทำธุระข้างนอก ที่รีสอร์ทเหลือแค่เมียกับพระมหา และน้องในบ้านอีก 2 คน
ปรากฏว่าน้องคนหนึ่ง มีเรื่องให้ต้องไปเคาะห้องของเมียตน เคาะอยู่นานกว่าจะมีคนมาเปิด คนที่มาเปิดคือเมียตน แต่ในห้องเขาอยู่กันสองต่อสองกับพระ ตอนนั้นน้องคนที่ไปเจอเขาก็ตกใจและคิดว่าต้องมีอะไรแปลกๆ แต่ก็ไม่กล้ามาเล่า
แล้วในทริปเดียวกันนั้น คุณติกับภรรยามีเรื่องทะเลาะกัน แต่ไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับพระ ทะเลาะกันจนตัดสินใจแยกกันนอน คุณติไปนอนที่ห้องพระ แล้วภรรยาไปนอนกับเพื่อนเขาที่เป็นคู่สามีภรรยา
เช้ามา คู่สามีภรรยาที่เป็นเพื่อน มาพูดว่า กลางดึกเห็นเงาตะคุ่มๆ มาเคาะกระจก นึกว่าเป็นคุณติมาง้อภรรยา แต่คุณติบอกว่าไม่ใช่ ซึ่งก่อนที่เพื่อนจะมาเล่า ภรรยาก็เหมือนร้อนตัวเอง ไปบอกกับเพื่อนว่า จริงๆ แล้วมันไม่ได้มีอะไรนะ อย่าไปคิดอะไรที่ไม่ดี
จนวันเกิดเรื่อง 21 มีนาคม ตนไปทำธุระที่ กทม. ส่วนภรรยาอยู่ที่บ้านที่สุโขทัย มีคนทักมาบอกตนว่า พระมานอนที่บ้านตนตอนที่ตนไม่อยู่ กลางดึกคุณตินอนไม่หลับ ก็เลยขับรถกลับบ้านโดยไม่บอกให้ภรรยารู้ แล้วเจอรองเท้าพระถอดอยู่นอกบ้าน ก็เลยแอบเดินดูรอบๆ บ้าน แล้วย่องเข้าบ้านไป ใจไม่ได้คิดว่าเขาจะมีอะไรกัน คิดว่าพระแค่มาจำวัดที่บ้านเฉยๆ ตนเคยจัดห้องนอนไว้สำหรับพระมหา เวลามาจำวัดจะต้องนอนที่ห้องนี้ แต่พอไปดูไม่เจอ ค่อยขึ้นไปดูที่ห้องนอนของตนกับภรรยา
พอเดินไป ก็เจอผ้าเหลืองถอดอยู่นอกห้อง เปิดเข้าไปก็เป็นเหตุการณ์ตามในคลิป เห็นว่าเขานอนเปลือยกายทั้งคู่อยู่ใต้ผ้าห่มด้วยกัน พอเห็นว่าตนถ่ายคลิปอยู่ เขาทั้งคู่ก็วิ่งในสภาพเปลือยมาล็อกตัวตน พยายามจะแย่งมือถือจากตน มีการยื้อยุดฉุดกระชากจนฟกช้ำกันเล็กน้อย
ภรรยาแก้ตัวว่า มันไม่ได้เป็นอย่างที่คิด ไม่ได้มีอะไรกัน พระแค่มาอาบน้ำที่ห้อง เพราะห้องของพระน้ำไม่ไหล ตนก็ถามกลับไปว่า กล้าพูดมาได้ยังไง น้ำก็ไหลปกติ แล้วถึงมาอาบน้ำจริงๆ มันมีเหตุอะไรที่จะต้องมานอนแก้ผ้าอยู่ด้วยกันใต้ผ้าห่ม
ขณะที่คุณเอ เพื่อนที่เห็นเรื่องราวมาตลอด เล่าว่า ฝ่ายหญิงเชื่อเรื่องดูดวงมากๆ จะมีหมอดู มีอาจารย์ครูบา ที่ทำนายทายทักอยู่รอบตัว เป็นหมอดูคนสนิท จะคอยยุยง บอกให้ทำแบบนั้นแบบนี้ แทบจะเรียกได้เลยว่า กำหนดการใช้ชีวิตของเขาเลย ขนาดตอนเลือกคู่ คุณภรรยาก็ยังให้หมอดูเลือกให้ ตอนมาเลือกคุณติ หมอดูก็เลือกให้ เชื่อว่าถ้าเลือกคุณติ จะช่วยยกระดับให้เขาไปอยู่ในสังคมชั้นสูง โดยที่คุณติ ดูแลดี ที่สำคัญคือจะยอมเป็นเบี้ยล่างของฝ่ายหญิงด้วย
ขณะที่ ทนายอนันต์ชัย และ ดร.ประยุทธ ประเทศเสนา รองประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม ให้ความรู้เรื่อง ปฐมปาราชิกของพระภิกษุ เดิมในอดีตเคยมีโทษตามกฎหมายบ้านเมือง มีโทษหนัก ให้เฆี่ยน ให้ตากแดด แต่คดีความในยุคนั้น พระต้องไปขึ้นศาลเยอะมาก จนทำให้ในสมัย ร.6 มีการสั่งให้ยกเลิกโทษปฐมปาราชิก ไม่ให้เป็นโทษอาญา เพราะศาลตัดสินกันไม่ไหว นั่นทำให้สิ่งที่อดีตพระมหาทำ ไม่ผิดตามกฎหมายบ้านเมือง สิ่งที่กองทัพธรรมอยากจะชี้ให้เห็นก็คือ เป็นไปได้หรือไม่ ที่เราจะเอากฎหมายเอาผิดทางอาญา กลับมาใช้กับพระที่มีพฤติกรรมแบบนี้ เพราะอย่างกรณีในเคสนี้ พระมหาลาสิกขา สึกไปแล้ว กฎหมายพระก็เอาผิดอะไรเขาไม่ได้อีก
ขณะที่ทนายแก้ว ให้ความเห็นว่า ในกรณีนี้มีการหมั้นหมายกัน สามารถฟ้องเอาของหมั้น เอาค่าชดเชยคืนจากหญิงคนนี้ได้ ซึ่งทนายอนันต์ชัยก็บอกว่า ให้ฟ้องเอาคืนดีกว่า เพราะผู้หญิงก็ร้าย ผู้ชายก็เลว คนแบบนี้ไม่ควรอยู่ในพระศาสนา