แวะที่แรกในพื้นที่ระยองกับสวนยางพารา สวมปาล์ม ผสมสวนผลไม้ที่ทำมากว่า 40 ปี เดิมชื่อ “สวนเกษตรศิริ” ปัจจุบันรู้จักกันในชื่อ “THE PARK ADVENTURE LAND” ด้วยภูมิประเทศที่เป็นหุบเขา มีลำธารนํ้าไหลผ่าน 3 สาย ภายในพื้นที่มีการทำฝายกั้นนํ้าหลายจุดทำให้มีแหล่งนํ้าอุดมสมบูรณ์ มีนํ้าไว้ใช้ในการเกษตรตลอดทั้งปี และฝายกั้นนํ้ายังทำให้เกิดทะเลสาบและนํ้าตก หรือนํ้าล้นในช่วงฤดูฝน พื้นที่ 2,000 ไร่ บางส่วนถูกพัฒนาพื้นที่เป็นพื้นที่จัดสรรโครงการ “THE PARK” บางส่วนปลูกสวนผลไม้ ได้แก่ ทุเรียน เงาะ ลองกอง และมังคุด ซึ่งจะออกผลให้นักท่องเที่ยวสามารถเก็บชิมได้ในช่วงกลางปี บางส่วนเป็นที่พัก ร้านอาหาร และคาเฟ่

ไฮไลต์ของที่นี่ คือ ทะเลสาบขนาดใหญ่ ท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่น เหมาะจะมานั่งชิล หรือจะชวนครอบครัวมาทำกิจกรรมพายเรือคยัค ปั่นเรือเป็ด ส่วนสายแอดเวนเจอร์ มีกิจกรรมชมสวนแบบไม่ธรรมดาที่นักท่องเที่ยวสามารถเลือกความสนุกสนานได้ตามความพอใจ ได้ 4 วิธี จะขี่จักรยานเสือภูเขา ขี่รถมอเตอร์ไซค์ 4 ล้อ (ATV) หรือนั่งรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง สำหรับเด็กและผู้สูงอายุ หรือพายเรือคยัค

จากนั้นค่อยไปเดินเลาะเลียบริมทะเลไปตามสะพานไม้และสะพานกระจกใส เส้นทางศึกษาธรรมชาติของอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ริมชายฝั่งทะเลอ่าวไทย ชื่อเขาแหลมหญ้ามาจากลักษณะภูมิประเทศที่เป็นแหลมยื่นออกไปในทะเล โดยมีพื้นที่โล่งกว้าง เป็นเนินทุ่งหญ้าสลับกับหิน เนื่องจากลมที่พัดแรงตลอดเวลาจึงทำให้ไม่มีต้นไม้ใหญ่ขึ้น

สุดปลายทางด้านหนึ่งคือ Sky Walk เขาแหลมหญ้า จุดชมวิวทะเลแบบ 360 องศาแห่งใหม่ โดยมีเกาะเสม็ดอยู่เบื้องหน้า อีกด้านคือ “ประภาคารไม้” แลนด์มาร์คดั้งเดิม กับประภาคารไม้ขนาดย่อมที่มีพื้นที่แค่พอให้คนขึ้นไปอยู่ได้เพียงคนเดียว ตั้งอยู่ ณ สุดปลายแหลมที่ยื่นออกไปในทะเล ประภาคารไม้ที่ทาด้วยสีขาวตัดกับสีฟ้าเข้มของท้องฟ้าและเขียวมรกตของท้องทะเลได้เป็นอย่างดี แนวเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติเขาแหลมหญ้านี้เป็นทั้งจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกริมทะเลที่สวยไปคนละแบบ นอกจากนี้ยังมีลานกางเต็นท์ให้สายแคมป์ได้มีชิลกับบรรยากาศชายทะเลด้วย

ไปถึงระยองแล้วหากไม่ใช่ฤดูกาลผลไม้ หนึ่งในอาหารห้ามพลาดก็คือ “ผักกระชับ” พืชสมุนไพรที่หายากมีปลูกเฉพาะในพื้นที่จังหวัดระยองเท่านั้น สรรพคุณครอบจักรวาล ใช้บำรุงกำลัง รักษาโรคท้องมาน ช่วยทำให้เจริญอาหาร โดยเมนูเด็ดคือ “แกงส้มผักกระชับ” เมนูอาหารภาคตะวันออกที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นอาหารประจำจังหวัดระยอง

จากระยองเลยต่อไปยังจันทบุรีกับการล่องเรือเที่ยวทะเลในอีกอารมณ์ด้วยเรือไม้สไตล์เมดิเตอร์เรเนียน “BRISE MARINE” เรือไม้ที่ได้รับการตกแต่งอย่างดีมีมุมให้แชะแล้วแชร์ได้ทั่วเรือไม่แพ้การล่องเรือยอชท์ แต่ให้ความรู้สึกแตกต่างออกแนวย้อนยุค ตลอดระยะเวลา 4 ชั่วโมงของการล่องเรือไปตามเส้นทางจากท่าเรือท่าเเฉลบ ไปเกาะนมสาว เกาะจุฬา สุดท้ายที่สะพานเเหลมสิงห์ จะมีจุดดำนํ้าตื้นให้แวะทักทายฝูงปลากับโลกใต้ทะเล 3 จุด ไม่ชอบดำนํ้ามีเรือคยัคใส หรือซับบอร์ดให้พายเล่นด้วย หรือใครไม่อยากขยับร่างกายแค่ออกมานอนอาบแดดบนดาดฟ้าเรือกลางทะเลก็ฟินได้ แถมยังมีกิจกรรมเสริมอย่างตกปลาหรือตกหมึกด้วย ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาในการล่อง

ถ้ายังพอมีเวลาไปแวะอ่าวลับอย่าง “อ่าวกระทิง” อ่าวขนาดย่อมที่มีความยาวเพียง 1 กิโลเมตร ในพื้นที่ของวนอุทยานเขาแหลมสิงห์ ด้วยบรรยากาศเงียบสงบจึงให้ความรู้สึกราวกับเป็นชายหาดส่วนตัว ทั้งหาดทรายยังขาวสะอาด นํ้าทะเลใส บริเวณชายหาดมีชิงช้าให้นั่งถ่ายรูป มีต้นสนที่คอยให้ร่มเงาแม้จะอยู่ในความดูแลของวนอุทยานเขาแหลมสิงห์แต่สามารถเข้าไปเที่ยวชมได้ฟรี เพียงแค่ลงทะเบียนและปฏิบัติตามข้อห้ามที่ไม่ให้นำขยะพลาสติกเข้าไปในพื้นที่ จากนั้นก็เดินลงบันไดไปราว 200 เมตรเพื่อพบกับชายหาดสวยได้ทันที

ก่อนกลับแวะคาเฟ่บรรยากาศสุดชิลที่ “Sea Horadee : ซีห์ หรดี” คาเฟ่ริมทะเลกับอาคารสีเขียวที่ดูเรียบง่าย แต่กลับมีมุมถ่ายรูปมากมาย ทั้งมุมเรือใบลำใหญ่ มุมต้นกระบองเพชร หรือวิวทะเลแหลมสิงห์ มีเครื่องดื่มให้เลือกหลากหลายทั้งสายกาแฟและไม่เน้นกาเฟอีน พร้อมเบเกอร์รี่สไตล์โฮมเมดที่ทำสดใหม่ทุกวัน ทั้งขนมเค้ก โทสต์ วาฟเฟิล ครอฟเฟิล หากติดใจท้องทะเลแหลมสิงห์อยากจะอยู่ค้างสักคืนสองคืน ข้าง ๆ ร้านกาแฟคือ พูลวิลล่า The Houseful On The Beach

จากทะเลเปลี่ยนแนวมาสัมผัสกับวิถีชุมชนที่ “ชุมชนบ้านธรรมชาติล่าง” หนึ่งในชุมชนท่องเที่ยวของตราด ชุมชนเล็ก ๆ ริมฝั่งทะเลอ่าวไทยที่อยู่ตรงข้ามกับเกาะช้าง ลงมือทำกิจกรรม Workshop Eco-print อย่าง “ผ้ามัดย้อม 3 ป่าจากภูผาสู่มหานที” ชื่อของผ้ามัดย้อมแสนยาวนี้มาจากวัตถุดิบที่นำมาย้อมสีซึ่งมาจากป่าชุมชน ป่าชายเลน และป่าสมุนไพร ทั้งดอกไม้ใบหญ้า พืชพรรณไม้ชนิดต่าง ๆ มัดแล้ว ย้อมแล้ว ยังชวนกันพาลงทะเลเพื่อเอาผ้ามัดย้อมไปล้างกับนํ้าทะเลที่จะทำให้สีสันของผ้ามัดย้อมที่ได้มีเฉดสีที่ต่างออกไป

สมุนไพรที่มีอยู่ทั้งในป่าชุมชน ยังถูกนำมาใช้ประโยชน์ในการทำลูกประคบ และสมุนไพรสำหรับแช่เท้าเพื่อบำบัดโรคด้วย โดยความพิเศษอีกอย่างของการแช่เท้าที่นี่คือถุงขนาดพอเหมาะที่ใส่เมล็ดถั่วเขียวไว้ด้านใน ระหว่างแช่เท้าให้ใช้ฝ่าเท้าเหยียบไปมา จะยิ่งช่วยบำบัดรักษาให้ดีขึ้นไปอีก

มาถึงย่านแหลมงอบแล้ว อย่าลืมแวะไปเช็กอินที่ “ประภาคารแหลมงอบ” ประภาคารสูงตั้งเด่นตระหง่านและป้ายสุดแผ่นดินตะวันออก อดีตท่าเรือเก่าแก่ของจังหวัดตราดที่เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของฝั่งตะวันออก เช็กอินแล้วอย่าลืมแวะสักการะอนุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่อยู่ริมชายฝั่งด้วย

ก่อนกลับจากตราดห้ามพลาด “ร้านก๋วยเตี๋ยวปู สุขุมวิท” ต้นตำรับ “ข้าวผัดพริกเกลือ” รสชาติจัดจ้าน จะเลือกเฉพาะอย่างหรือใส่รวมมาทั้งหมดทั้งไข่ปู กั้ง กุ้ง ปู และปลาหมึก ก็แซ่บถึงใจได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีเมนูก๋วยเตี๋ยวสำหรับคนที่ชื่นชอบเส้นและนํ้าซุปด้วย ส่วนชื่อร้านที่มีสุขุมวิทต่อท้ายอย่าเข้าใจผิดคิดว่าอยู่บนถนนสุขุมวิท เพราะคำนี้มาจากชื่อซอยที่อยู่ข้างตลาดสดเทศบาลตราดนั่นเอง

มาระยอง จันทบุรี ตราด ช่วงนี้ ฤดูกาลแห่งผลไม้กำลังจะเริ่มต้นแล้ว ทั้งทุเรียน มังคุด เงาะ แตงโม สับปะรด มะม่วง ลำไย ลิ้นจี่ มะยงชิด สละ เริ่มเปิดให้ฟินกันยาว ๆ ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนไปจนถึงมิถุนายน ก่อนไปอย่าลืมเช็กพิกัดสวนและระยะเวลาเปิดต้อนรับในแบบบุฟเฟต์กันอีกครั้งเพื่อไม่ให้พลาดโอกาสเด็ดประจำปี.

อธิชา ชื่นใจ