อย่างไรก็ตาม แม้ดูเหมือนเป็นช่วงของการพักร้อนพักรบทางการเมือง ที่บรรดาแกนนำทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ต่างแยกย้ายกันลงพื้นที่ไปเรียกเรตติ้งโกยคะแนนพบปะประชาชน โดย ‘เสี่ยนิด’ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พาครอบครัวไปร่วมสาดน้ำคลายร้อนกับประชาชนที่หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ส่วนผู้นำทางจิตวิญญาณนัมเบอร์วันของพรรคเพื่อไทย ‘ทักษิณ ชินวัตร’ อดีตนายกรัฐมนตรี ปิ๊กเหนือกลับบ้านไปดื่มด่ำบรรยากาศสงกรานต์ที่เชียงใหม่บ้านเกิด พร้อมคณะติดตามห้อมล้อมไม่แพ้นายกรัฐมนตรี
แต่สถานการณ์การเมืองในซีกรัฐบาล กลับคุกรุ่นด้วยกระแสร้อนการปรับ ‘ครม. เศรษฐา 2’ ที่จะมีการปรับทัพใหญ่ในเร็ววันนี้ ซึ่ง ‘เสี่ยนิด’ ออกมาโอดครวญว่าสายโทรศัพท์แทบไหม้ เพราะรัฐมนตรีที่มีชื่อถูกเขี่ยพ้น ครม. โทรฯ เช็กข่าวกันให้วุ่น โดยนายกฯ ชี้แจงว่า วันนี้ยังเป็นเพียงข่าวลือ ยังไม่มีการปรับอะไร “เรื่องการปรับ ครม. มีหลายเหตุผล ไม่ว่าจะหน้าที่สภา การบริหาร เรื่องของการถูกคนถูกฝา ทำงานมา 6-7 เดือน ต้องดูอีกทีว่าความเหมาะสมอยู่ตรงไหน เอาเรื่องความเดือดร้อนประชาชนเป็นหลัก”
ขณะที่บรรดารัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ทั้งที่มีรายชื่อจะถูกโยกเก้าอี้หรือหลุดจาก ครม. ต่างแห่ขึ้นเชียงใหม่อย่างพร้อมเพรียง เพื่อดินเนอร์กับ “ทักษิณ” ในช่วงเย็นวันครอบครัววันที่ 14 เม.ย. จากนี้ใครจะอยู่หรือไป ก็ต้องรอลุ้นโฉมหน้า ครม. หลังช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้

ไม่กล่าวถึงไม่ได้คือซีกฝ่ายค้าน โดยเฉพาะ “พรรคก้าวไกล” สงกรานต์นี้ ก็แบ่งทีมแบ่งสายกันร่วมสาดน้ำกับแฟนคลับด้อมส้ม เริ่มจาก “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่อุตส่าห์โฉบขึ้นเหนือไปเชียงใหม่ จนเจอกับข้อครหาฉายา “นักปาด” ว่าหวังเช็กกระแสวัดรอยเท้ากับ “ทักษิณ” เจ้าถิ่นเก่าอีกแล้ว
เจ้าตัวปัดพัลวันว่าไม่ได้ไปวัดพลังกับใคร แต่ไปเช็กค่าฝุ่นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาจำนวนมากเท่านั้น ก่อนจะวกไปอีสาน สาดน้ำสงกรานต์กับแฟนคลับสีส้ม 3 จังหวัด หนองคาย-อุดรธานี-ขอนแก่น โดยให้ “ชัยธวัช ตุลาธน” หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมคณะ ปักหลักที่เมืองเหนือต่อ
แน่นอนว่าหลังผ่านช่วงเทศกาลสงกรานต์ไปแล้ว พรรคก้าวไกลต้องเจอศึกใหญ่ คือคดียุบพรรคข้อหาล้มล้างการปกครอง ที่พรรคได้ขอยืดเวลาในการชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญออกไป ซึ่งอาจจะพอประวิงเวลาได้บ้าง และมั่นใจได้ว่า กระบวนการประหารพรรคก้าวไกลจะไม่เกิดขึ้นในช่วงเดือน เม.ย. นี้ ดังนั้นการใช้เวลาเฮือกสุดท้ายที่เหลืออยู่ การเดินสายปลุกพลังมวลชนสู้ศาลรัฐธรรมนูญ จึงมีความหมายอย่างยิ่ง.