สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 16 เม.ย. ว่า สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนรายงานว่า การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) เมื่อไตรมาสแรกของปีนี้ หรือระหว่างเดือน ม.ค.-มี.ค. ที่ผ่านมา อยู่ที่ 5.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว และเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า หรือไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว ซึ่งจีดีพีขยายตัว 5.2%

นอกจากนั้น สถิติดังกล่าวดีกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ อาทิ สำนักข่าวบลูมเบิร์ก ที่วิเคราะห์ว่า จีดีพีของจีนจะเติบโตที่ระดับ 4.8% ในไตรมาสแรกของปีนี้


ทั้งนี้ การลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์และการบริโภคภายในครัวเรือนยังคงต่ำ แต่ภาคการผลิตและโครงสร้างพื้นฐานเป็นกลจักรสำคัญ และมีบทบาทเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ในการขยายตัวของเศรษฐกิจจีน สะท้อนการปรับเปลี่ยนนโยบายของประเทศ ให้เน้นการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมมากขึ้น


อนึ่ง นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน แถลงต่อที่ประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ (เอ็นพีซี) เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ประกาศเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในปีนี้ ไว้ที่ระดับ “ประมาณ 5%” ซึ่งเป็นระดับเดียวกับปีที่แล้ว


นายหลี่กล่าวว่า “เสถียรภาพ” มีความสำคัญอย่างมากในภาพรวม และเป็นพื้นฐานสำหรับการขับเคลื่อนนโยบายทุกด้านของจีน ความก้าวหน้าเป็นทั้งเป้าหมายและแรงผลักดัน อย่างไรก็ดี ทุกฝ่ายต้องร่วมกันปฏิรูปกลไกเพื่อนำไปสู่การเติบโต การปรับเปลี่ยนโครงสร้าง การยกระดับคุณภาพ และการส่งเสริมผลงาน.

เครดิตภาพ : AFP