จากกรณี คุณยาย 71 ปี เดินไปเก็บชามข้าวของ “ซาร่า” สุนัขพันธุ์ไทยผสม ที่เลี้ยงเอาไว้ ซึ่งมีอาการหวงชามข้าว จนคุณยายถูกกัดแขนเหวอะ เผยพฤติกรรมเคยกัดคนในครอบครัวมาแล้ว เพราะอาการหวง จนคนในครอบครัวผวา หาคนรับเลี้ยงใหม่ ภายหลังนายกเทศมนตรีตำบลบางบาล ได้ลงพื้นที่หลังจากได้รับทราบข่าว จึงรุดเข้าเยี่ยม ยายอายุ 71 ปี เจ้าของที่ถูกกัด โดยทางเทศบาลระบุว่า เบื้องต้นจะรับไปดูแลก่อนชั่วคราว

แต่โซเชียลกลับตั้งข้อสงสัย การหายไปอย่างปริศนาของ “เจ้าซาร่า” ที่จนถึงตอนนี้ยังไม่รู้ชะตากรรม ว่าถูกจับไปดูแล หรือจัดการ แบบใด จึงบุกไปถึงเทศบาลที่เป็นคนพาซาร่ามา แต่กลับไม่มีเจ้าหน้าที่ให้คำตอบได้ ยิ่งสร้างความสงสัยให้แก่ทุกฝ่าย

คุณเอ ลูกชายของคุณยายที่ถูกกัด และเป็นเจ้าของเจ้าซาร่า เล่าว่า ซาร่าเป็นหมาที่พ่อของตนไปรับมาเลี้ยง เมื่อ 4 ปีก่อน ตลอดเวลาที่ผ่านมา ซาร่ากัดคนในบ้านบ่อยมาก ทั้งพ่อ ทั้งแม่ ทั้งลูกของคุณเอ จะถูกซาร่างับอยู่บ่อยๆ ตอนแรกเข้าใจว่าบางครั้งคนในบ้านเล่นกับมันแรงเกินไป ก็เลยถูกมันกัด ทุกคนในบ้านที่เล่นกับซาร่า จะถูกมันกัดทุกคน แต่ไม่เคยเป็นข่าว

จนวันเกิดเหตุ แม่ซึ่งเป็นคนที่ดูแลซาร่าเป็นหลัก หลังจากที่คุณพ่อเสียชีวิตไป เห็นว่าชามข้าวของซาร่ามีมดขึ้น จะเก็บไปเททิ้งทำความสะอาด พอมันเห็นว่าแม่มาหยิบชามข้าว มันก็ปรี่เข้ามาแล้วกระโดดกัดทันที มือคุณแม่เป็นแผล มีรอยขย้ำที่มือและแขน

หลังจากที่คุณแม่โดนกัด ไม่ยอมบอกตน ทิ้งเวลาให้ล่วงเลยมา 2 วัน จนตนมาทราบเรื่อง ก็เลยประสานงานผ่านกู้ภัยที่รู้จักกัน อยากให้ช่วยประสานหน่วยงานมารับซาร่าไปดูแล

ยืนยันว่าครอบครัวตนไม่ได้ผลักไสไล่ส่งหมา ซาร่าเป็นหมาที่คุณแม่รักมาก เหมือนเป็นตัวแทนของคุณพ่อที่เพิ่งจะเสียชีวิตไป ตอนที่คุณแม่โดนกัด ยังไม่ยอมบอกตน เพราะกลัวว่าตนจะโกรธหมา แต่สิ่งที่จำเป็นต้องทำหลังจากเกิดเรื่อง ก็คือการส่งมันไปฝึก เพราะซาร่าเป็นหมาที่ดุมาก ถ้าฝืนเลี้ยงต่อต้องล่ามโซ่มันแน่ๆ ซึ่งก็สงสารหมา ไม่เคยล่ามโซ่มันมาก่อน แต่ถ้าไม่ล่าม มันต้องกัดแม่อีกแน่ จึงอยากส่งให้หน่วยงานเอามันไปฝึก แล้วถ้ามันเชื่องอยู่ร่วมกันได้ ก็จะรับมันกลับมาดูแล

หลังเกิดเหตุ คุณเอประสานผ่านกู้ภัย กู้ภัยก็ช่วยติดต่อนักข่าวประจำจังหวัดคนหนึ่ง เขาก็มาดูที่บ้าน เขาประสานไปยังนายชูเกียรติ บุญมี นายกเทศมนตรีตำบลบางบาล บอกว่า เดี๋ยววอชด็อกไทยแลนด์จะเข้ามา เผื่อนายกจะเข้ามาช่วยดูแล

คุณใหม่ จากวอชด็อกไทยแลนด์ เล่าว่า คุณบอยนักข่าวที่เข้าไปที่บ้านของคุณเอ โทรฯ มาปรึกษาเรื่องสุนัขกัดคุณยาย ขอปรึกษาเรื่องจับหมาไปช่วยดูแลได้ไหม ตนก็บอกว่าต้องประสานทีมกู้ภัยสี่ขา เพื่อนัดวันเข้าไปจับ และได้ติดต่อขอเบอร์ทางเจ้าของบ้านไว้ แต่ยังไม่ได้มีการนัดหมาย เพราะต้องประสานกู้ภัยก่อน

แต่ยังไม่ทันจะได้นัดหมายอะไร ก็มีคนโทรฯ มาถาม ว่า ใหม่จะเข้าไปรับหมาตอนไหน ถึงไหนแล้ว เราก็เลยแจ้งว่า ยังไม่ได้เข้าไปวันนี้ เพราะทีมจับยังไม่ว่างในช่วงสงกรานต์ อาจจะต้องรอหลังสงกรานต์ ทางปลายสายเขาก็วางสายไป มารู้เหตุการณ์ทีหลังในข่าวตอนที่หมาหายไปแล้ว

เมื่อทราบแบบนั้น ทางเทศบาลจึงเข้าไปจับเจ้าซาร่าออกมาก่อน แล้วจะขังเจ้าซาร่าไว้รอทางวอชด็อกมารับหลังสงกรานต์ ทางเทศบาลเข้าไปถึงพื้นที่ แล้วโทรฯ ตามผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านมาช่วยกันจับ โดยใช้ไม้ปลายบ่วงคล้องคอ แล้วใช้ผ้าถุงคลุม เป็นภาพออกมาดูแล้วค่อนข้างรุนแรง เพราะเจ้าซาร่ามันดิ้นและต่อต้าน

ขณะที่ นายชูเกียรติ บุญมี นายกเทศมนตรีตำบลบางบาล เล่าว่า หลังได้รับแจ้งเรื่องซาร่า ไปดูพฤติกรรมแล้ว การวิ่งเข้ามากัดคุณป้าแบบนี้มันผิดวิสัย แล้วยิ่งเห็นว่าคุณป้ากักซาร่าไว้ที่ชานบันไดหลายวันแล้ว เห็นว่ามันน่าจะเครียดกว่าเดิม กลัวว่าถ้าหลังจากนี้ คุณป้าอยู่ตามลำพังคนเดียว คุณป้าจะได้รับอันตรายอีก

เจตนาที่ไปจับในวันนั้น ไม่ได้มีความต้องการจะไปทำร้าย ไม่มีใครจงเกลียดจงชังซาร่า แต่ที่ไปทำ เพราะต้องการให้คุณป้าพ้นภัย แต่ด้วยสถานการณ์ ด้วยความพร้อมของอุปกรณ์ และทีมงานในตอนนั้น สิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดคือทำได้แบบนั้น คนที่เข้าไปช่วยกันจับ เขาก็เสียสละเพื่อช่วยคุณป้า เป้าประสงค์ไม่มีใครอยากจะทำร้ายสุนัข

ถามว่าผิดวิธีไหม ผิดแน่นอน เพราะเราไม่มียาสลบ วันที่ไปช่วยกันมันเป็นวันหยุดยาว เป็นวันเสาร์ แต่ชุมชนนี้เขาดูแลกันดี ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน อะไรต่างๆ เขามาช่วยกันหมด แต่ภาพที่ออกไป มันไปเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ หลายคนถูกทัวร์ลงในโซเชียล แม้แต่ลูกสาวของคุณเอเจ้าของหมา ก็ยังมีคนไปตามราวีในเฟซบุ๊ก ว่าหมาหายยังมีหน้ามาร้องเพลง มันใช่หรือไม่

นายก บอกว่า คนที่รักสัตว์ เป็นห่วงสัตว์ เราขอบคุณมากๆ และเข้าใจหัวอกมากๆ ตัวนายกเองก็เลี้ยงหมาไว้ 3 ตัว แต่การรักและเป็นห่วงสัตว์ จนมาทำร้าย หรือทัวร์ลงเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ตนก็มองว่ามันผิดตรรกะเหมือนกัน

ตอนที่จับซาร่ามาแล้ว ยืนยันว่าไม่มีการโยนขึ้นรถ เป็นการวาง และตอนที่ผูกกับรถ ก็ผูกเชือกกับปลอกคอ ไม่ได้รัดกับคอหมา แล้วออกจากบ้านที่เกิดเหตุ ไปขอยืมกรงสุนัขจากคุณม่วย คนรักสุนัขในพื้นที่ เป็นกรงที่ไม่ได้ใช้งาน เขาก็ให้ยืมมา เพื่อขังมันไว้ที่หลังเทศบาล รอเจ้าหน้าที่มารับ ลูกน้องแจ้งนายก ว่า ได้เอาหมาใส่กรงแล้ว เลื่อนกรงไปไว้ในร่มอาคาร ไม่ให้โดนแดดแล้ว

นายกมารู้เรื่องตอนที่คุณป้าไปเยี่ยมซาร่าที่เทศบาล ปรากฏว่าไม่เจอ ถึงมารู้ว่าหมาหลุดจากกรงหายไป คุณเอ เล่าต่อว่า มีคนติดต่อมาแจ้งว่าหมาหายไป พอไปดูก็เจอว่ากรงเปิดอยู่ มันคงหลุดจากกรงหายไป ก็ขับรถตามหาตอนนั้นทันที

ด้านคุณณิชา เจ้าของเพจ มะลิ กะปิ คนที่ไปลงพื้นที่ช่วยตามหาซาร่า โฟนอินเข้ามาบอกว่า ตรงจุดที่ตั้งกรงไม่มีกล้องวงจรปิด แต่จริงๆ แล้วมันมี และกล้องก็หันเข้าหากรงหมาตรงๆ แล้วนายกจะบอกว่าไม่มีกล้องได้ยังไง แล้วเทศบาลก็เพิ่งจะเบิกงบมาซ่อม ส่วนตัวนายกก็ไปทำงานทุกวัน จะบอกว่าไม่รู้ได้ยังไงว่าตรงไหนมีหรือไม่มีกล้อง ถ้ารถนายกโดนทุบ กล้องคงไม่เสียใช่ไหม

ขณะที่นายกบอกว่า ที่มันเสีย มันเสียที่ระบบเซิร์ฟเวอร์ ตัวควบคุมกลาง ซึ่งมารู้ว่ามันเสียในวันที่ไปเปิดดูแล้วมันดูไม่ได้ ซึ่งกล้องมันเสียได้ตลอดเวลา แล้วเจ้าหน้าที่ของเทศบาลเคยถูกถอดล้อรถ จะไปเปิดภาพดูก็เปิดไม่ได้

คุณณิชา บอกว่า เชื่อว่าซาร่าตายไปแล้ว และตายตั้งแต่ก่อนจะไปถึงเทศบาลด้วย ไม่น่าจะเคยได้เข้าไปอยู่ในกรง เพราะถ้าหมามันได้เข้าไปอยู่กรงจริง เทศบาลคงไม่ยอมโดนด่าขนาดนี้ คงเอากล้องวงจรปิดมาเปิดให้ประชาชนได้ดูแล้ว

ขณะที่นายก ยืนยันว่า ถ้าหมาตาย ยังไงเจ้าหน้าที่ก็ต้องแจ้งตนก่อนเป็นคนแรก เพราะเรามีนัดหมายว่าจะต้องส่งซาร่าให้คนมารับไปดูแลต่อ

ขณะที่ คุณใหม่ วอชด็อก ยืนยันว่า วอชด็อกเองก็รักหมาไม่ต่างกัน และต้องการตามหาความจริงเหมือนกัน ดูจากภาพวงจรปิดตอนที่รถของเทศบาลขับผ่านบ้านคน สังเกตวิธีการจับไม้จับบ่วงโซ่ ค่อนข้างมั่นใจว่าซาร่ายังมีชีวิตอยู่ตอนอยู่บนรถ แต่ดูจากสภาพกรง พอไปดูแล้ว เชื่อว่าหมาไม่ได้เข้าไปอยู่ในกรง อาจจะหลุดไปก่อนที่ถูกขัง

ขณะที่คุณณิชาบอกว่า ทางเดียวที่จะรู้ความจริง ก็คือต้องไปกู้ภาพจากกล้องวงจรปิดให้ได้ โดยตนจะอาสาหาผู้เชี่ยวชาญมากู้ ออกเงินเองให้หมด ไม่ต้องเบิกงบ ซึ่งทางนายก บอกว่า ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ยินดี

ล่าสุดมีการตั้งรางวัลให้ผู้ที่พบเจอซาร่า จากมูลนิธิช่วยเหลือสัตว์ รวมกัน 2 หมื่นบาท และทาง หนุ่ม กรรชัย ก็ช่วยเพิ่มให้อีก 1 หมื่น เอก สายไหมต้องรอด ช่วยอีก 1 หมื่น ณิชา เพจมะลิ กะปิ 1 หมื่น รวมเป็น 5 หมื่นบาท

ขณะที่คุณเอ สอบถามเพจมะลิ กะปิ บอกว่า ที่เขาเสียสละมาตามหาซาร่า ตนก็ขอบคุณมาก แต่การที่ทางเพจไปโพสต์บอกว่าลูกสาวตนอายุ 15 ปี เป็นคนโทรฯ ตามเทศบาลมาจับหมา จนมีคนมาทัวร์ลงลูกสาวตน ทำไปเพื่ออะไร แล้วการที่เขาเอาตุ๊กตาของซาร่า ไปโพสต์เรียกไลก์ เรียกแชร์ คุณขอใครไป

คุณณิชา ยืนยันว่า นายกเป็นผู้บอกเองว่า ลูกสาวเป็นคนโทรฯ แต่นายกบอกว่าไม่ได้พูด สิ่งที่พูดก็คือ ลูกสะใภ้เป็นคนโทรฯ แจ้งป่อเต็กตึ๊ง แล้วคุณเจ้าของหมามีความคิดแบบนี้จริงๆ หรือ อยากจะบอกว่า ถึงทางเพจไม่โพสต์ คนในโซเชียลก็โจมตีคุณอยู่แล้ว แล้วที่บอกว่าทางเพจไปโพสต์ด้วยเรื่องไม่จริง มันมีอะไรบ้างที่ไม่จริง

แล้วที่อ้างว่าเราไปทำให้เขาถูกทัวร์ลง อยากจะบอกเขาว่า ที่สังคมเขาตั้งคำถาม มันเป็นเพราะการกระทำของคุณเองมากกว่า ไปร้องรำทำเพลง ลั้นลากับลูกสาว จนคนในสังคมเขาสงสัยว่าเจ้าของเขาทำอะไร ในขณะที่พลังโซเชียลช่วยกันตามหา

คุณเอ ยืนยันว่า คลิปที่ทำ ถ้าไปย้อนดูก็จะรู้ว่าเป็นคลิปที่ทำไว้ก่อนจะเกิดเรื่องแล้ว และการที่เขาไม่ได้โพสต์ ไม่ได้แปลว่าเราไม่ทำ เราไปขับรถตามหาซาร่าตั้งแต่คืนนั้น คืนที่หมาหายไป ไม่ใช่มากล่าวหาว่าไม่ทำ