สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 24 เม.ย. ว่า พรรคคองเกรสซึ่งเป็นแกนนำฝ่ายค้านอินเดีย ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่านายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี หาเสียงด้วยการบิดเบือนความจริง การมีเจตนาสร้างความแตกแยก และความเกลียดชังทางศาสนา อีกทั้งยังเป็นการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายทางสังคม ด้วยการพุ่งเป้าปรามาสพลเมืองบางกลุ่มอย่างเจาะจง ถือเป็นการละเมิดกฎหมายการเลือกตั้ง
ทั้งนี้ พรรคคองเกรสอ้างว่า ในระหว่างที่ผู้นำอินเดียลงพื้นที่ปราศรัยหาเสียง ที่รัฐราชสถาน ทางตอนเหนือของประเทศ เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่าพันธมิตรฝ่ายค้านซึ่งนำโดยพรรคคองเกรส กล่าวว่า “สิทธิของพลเมืองอินเดียเชื้อสายมุสลิม อยู่เหนือความรุ่งเรือง และการพัฒนาบ้านเมือง”
At a weekend rally, Indian Prime Minister Modi claimed the opposition wanted to take Hindus' money and give it to "infiltrators." The opposition Congress Party said he meant Muslims, and lodged an official election complaint.https://t.co/k5XfcSzoga
— DW News (@dwnews) April 23, 2024
ขณะเดียวกัน โมดีกล่าวว่า หากพรรคคองเกรสชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ งบประมาณของรัฐจะถูกนำไปแจกจ่ายให้กับครัวเรือนที่มีบุตรมากกว่า และ “ผู้ที่แทรกซึมเข้ามาในอินเดีย” ซึ่งบรรดาฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองมองว่า เป็นการสื่ออย่างมีนัยถึงชาวมุสลิมในประเทศ
ด้านคณะกรรมการการเลือกตั้งยังไม่มีความเห็นอย่างเป็นทางการ ต่อการร้องเรียนของพรรคคองเกรส ซึ่งขอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง “ใช้มาตรการลงโทษอย่างจริงจัง” ต่อพรรคภารติยะ ชนตะ (บีเจพี) ของโมดี
ขณะที่พรรคบีเจพีออกแถลงการณ์ ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด โดยระบุว่า โมดี “ต้องการสื่อสารอย่างเปิดเผย” กับประชาชน อนึ่ง อินเดียอยู่ระหว่างการเลือกตั้งทั่วไปแบบมาราธอน ซึ่งเป็นการแบ่งการลงคะแนนตามภูมิภาค ระหว่างวันที่ 19 เม.ย.-1 มิ.ย. เพื่อเลือกสมาชิกชุดใหม่ทั้ง 543 ที่นั่งของโลกสภา หรือสภาผู้แทนราษฎร
อนึ่ง การเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้มีสิทธิออกเสียงอยู่ที่ราว 968 ล้านคน ถือเป็นการเลือกตั้งทั่วไปตามระบอบประชาธิปไตย ครั้งใหญ่ที่สุดของโลก.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES