เมื่อวันที่ 2 ต.ค. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.วิสูตร เต็งเฉี้ยง สว.กก.สส.บก.น.5 และนายตำรวจในสังกัดร่วมกันจับกุมตัว นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ความผิดฐาน ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ, ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย, ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน, เข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน และ ทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ เป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่ทรัพย์สินของผู้อื่น โดยจับกุมได้ภายในซอยสุขุมวิท 42 ถ.สุขุมวิท แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพฯ

ทั้งนี้ สืบเนืองจากมีผู้เสียหายเป็นหญิงสาว เข้าแจ้งความที่ สน.คลองตันว่าถูก นายเอ หลอกลวงไปมีความสัมพันธ์ ก่อนจะขโมยเอาของมีค่า ทรัพย์สิน เงินสด รวมถึงบัตรเครดิตไปใช้ ซึ่งเคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้งในพื้นที่ ภายหลังพนักงานสอบสวนขออนุมัติออกหมายจับ จนพบว่าผู้ต้องหาหลบหนีมาอยู่ภายในซอยสุขุมวิท 42 ตำรวจจึงติดตามไปจับกุมไว้ได้ดังกล่าว

จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การปฏิบัติเสธทุกข้อกล่าวหา อ้างว่า ผู้หญิงเป็นฝ่ายสมยอมเอง ไม่เคยข่มขืนแต่อย่างใด อีกทั้งครอบครัวทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และรับเหมาก่อสร้างจึงมีฐานะทางการเงินอยู่แล้ว ไม่เคยคิดจะขโมยของหรือขอเงินจากฝ่ายหญิง นอกจากนี้หากเอาบัตรเครดิตไปใช้ หรือจะใช้แอพธนาคาร ตนก็ไม่มีรหัส เรื่องที่เกิดขึ้นเพราะฝ่ายหญิงนำเงินมาให้หรือซื้อของมาให้เอง ซึ่งหากจะให้ตนชดใช้คืนก็ยินดีจะคืนให้ทันที

สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นคือตนไปใช้แอพพลิเคชั่นหาคู่แอพหนึ่ง ซึ่งสามารถเลือกอาชีพของฝ่ายหญิงได้ ตนจึงเน้นเลือกคบหาฝ่ายหญิงที่เป็นแพทย์ เพราะชื่นชอบในความสามารถ ส่วนใหญ่ไม่เคยมีปัญหาถึงแม้จะเลิกลากันไป จะมีก็แค่บางคนเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องไม่พอใจ หึงหวงที่ตนที่มีผู้หญิงคุยเยอะ อย่างไรก็ตามตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา หลังจากนี้จะได้นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.