เมื่อวันที่ 26 เม.ย. นายสุรินทร์ มั่นประสงค์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ว่าที่ร้อยตรีธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการ กพฐ. ได้มอบหมายให้ตนตรวจสอบเรื่องร้องเรียนว่ามีผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่ง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) เลย เขต 2 จัดหลักสูตรน็อคข้อสอบเข้มสู่ตำแหน่งรองผู้อำนวยการโรงเรียน และผู้อำนวยการโรงเรียน ปี 67 กับ ผอ.จจ. ทาง Google Meet รับเพียง 200 คนเท่านั้น โดยเป็นหลักสูตร 2 วัน ตั้งแต่วันที่ 23-24 เม.ย. 67 อบรมได้ทุกจังหวัด ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการอบรมหลักสูตรละ 1,200 บาท ทั้งนี้ในข้อมูลการจัดติวข้อสอบของผู้อำนวยการโรงเรียนคนดังกล่าวได้ระบุหลักฐานเลขบัญชีการโอนเงินที่ชัดเจน พร้อมกับเบอร์ติดต่อ ซึ่งขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว อีกทั้งได้ย้ายผู้อำนวยการโรงเรียนคนดังกล่าวที่เปิดติวข้อสอบให้มาช่วยราชการที่ส่วนกลาง สพฐ. เพื่อเปิดทางให้การสอบสวนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งนี้ หากผลสรุปการสอบข้อเท็จจริงมีมูลความผิดจริงก็จะถูกลงโทษตามมาตรการทางวินัยของข้าราชการต่อไป

ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ สพฐ. ได้ออกมาตรการป้องกันการทุจริตเรื่องการสอบครูผู้ช่วย และการสอบคัดเลือกผู้บริหารสถานศึกษา ซึ่ง พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ และนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ ในฐานะที่กำกับดูแล สพฐ. ได้ย้ำว่า ให้การจัดสอบดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี โดยยึดถือระบบคุณธรรมความเสมอภาค ความโปร่งใสตรวจสอบได้ ปราศจากการทุจริต หรือส่อไปในทางไม่สุจริต โดยห้ามไม่ให้ผู้อํานวยการสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา และผู้อํานวยการสํานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ รวมทั้งข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในสังกัดเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องหรือกระทําการใดๆ ที่มีเจตนาเป็นการกวดวิชา จัดทําเอกสารจําหน่ายแจกหรือกระบวนการอื่นใดที่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้เข้าสอบโดยเด็ดขาด พร้อมแจ้งคณะบุคคลใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่ ห้ามเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องหรือกระทำการใดๆ เป็นการกวดวิชา จัดทําเอกสารจําหน่ายแจกหรือกระบวนการอื่นใดที่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้เข้าสอบโดยเด็ดขาดเช่นเดียวกัน ไม่เช่นนั้นจะมีความผิดทางวินัยอย่างแน่นอน.