เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หญิงสาวชาวเกาหลีใต้คนหนึ่ง ออกมาเล่าประสบการณ์ที่โดนมิจฉาชีพหลอกลวงผ่านรายการยอดนิยม “In-Depth 60 Minutes” ทางสถานีโทรทัศน์ LBS ของเกาหลีใต้ เพื่อเป็นอุทาหรณ์
หญิงสาวผู้กลายเป็นเหยื่อสูญเสียเงินไปร่วม 70 ล้านวอน หรือประมาณ 1.87 ล้านบาท เพราะหลงเชื่อมิจฉาชีพที่ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ปลอมแปลงใบหน้าตลอดจนเอกสารประจำตัว เพื่อให้เธอเชื่อว่ากำลังพูดคุยติดต่ออยู่กับ “อีลอน มัสก์” มหาเศรษฐีคนดังเจ้าของแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (ทวิตเตอร์) และอีกหลายกิจการ
หญิงสาวเล่าว่า เธอได้รับการติดต่อจากคนร้ายเป็นครั้งแรกในวันที่ 17 ก.ค. 2566 ผ่านช่องทางบนแพลตฟอร์มอินสตาแกรม โดยคนร้ายแอบอ้างว่าเขาคือ อีลอน มัสก์
หลังจากพูดคุยกัน คนร้ายได้พยายามหว่านล้อมให้เหยื่อสาวหลงเชื่อ โดยส่งรายละเอียดข้อมูลส่วนบุคคลต่าง ๆ มาให้เธอดู เช่น ภาพถ่ายของหนังสือเดินทาง, ภาพถ่ายขณะที่เขากำลังทำงาน, ภาพขณะนั่งเฮลิคอปเตอร์ไปทำงานที่ “เทสลา” และ “สเปซเอ็กซ์” รวมถึงภาพของลูก ๆ ของเขาที่มาเที่ยวที่บริษัทในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์
มัสก์ ตัวปลอมอ้างว่าเขามักจะสุ่มเลือกติดต่อแฟนคลับของเขาเพื่อ “เคลียร์สมองให้โล่ง”
เหยื่อสาวยังเล่าว่าเมื่อเธอถามถึงเหตุการณ์ที่ มัสก์ พบปะกับประธานาธิบดียุน ซ็อก-ย็อล แห่งเกาหลีใต้ เมื่อเดือนเมษายน 2566 คนร้ายที่แอบอ้างตัวเป็นมหาเศรษฐีนักลงทุนก็เล่าว่า เขาและประธานาธิบดี คุยกันเรื่องตั้งโรงงานขนาดใหญ่ที่กรุงโซลและเกาะเชจู
ในตอนแรกหญิงสาวยังคงไม่เชื่ออย่างสนิทใจว่าเธอกำลังติดต่อกับ มัสก์ ตัวจริง แต่แล้วเธอก็เริ่มเปลี่ยนใจ เมื่อได้พูดคุยผ่านวิดีโอคอล ซึ่งพบในเวลาต่อมาว่า เป็นใบหน้าที่ใช้เทคโนโลยี “ดีพเฟค” ปลอมแปลงให้คล้ายคลึงกับใบหน้าของ มัสก์ ยิ่งไปกว่านั้น ระหว่างที่พวกเขาพูดคุยกัน มัสก์ ตัวปลอมยังสารภาพรักกับเธอด้วย
ต่อมา คนร้ายก็ล่อลวงให้เหยื่อสาวนำเงินมาลงทุนกับเขา โดยส่งหมายเลขบัญชีธนาคาร ซึ่งเขาอ้างว่าเป็นบัญชีธนาคารของพนักงานบริษัทของเขาในเกาหลีใต้
แม้ว่าหญิงสาวจะยังไม่แน่ใจแบบเต็มร้อย แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะโอนเงินไปร่วม “ลงทุน” กับธุรกิจซื้อขายเงินคริปโต ตามคำเชิญของคนร้ายประมาณ 70 ล้านวอน โดยทยอยโอนหลายครั้งในช่วงเดือน ส.ค. ปีที่แล้ว
คนร้ายโดนเปิดโปง หลังจากที่ส่งคลิปเสียงมาให้เหยื่อ ซึ่งต่อมาได้นำไปพิสูจน์พบว่า เป็นเสียงที่ผ่านการดัดแปลงโดยเทคโนโลยีเอไอ นอกจากนี้ แพลตฟอร์มให้บริการซื้อขายเงินคริปโตที่คนร้ายแนะนำมา ก็กลายเป็นเว็บไซต์หลอกลวงเช่นกัน
ปัจจุบัน เกาหลีใต้กำลังเผชิญปัญหาอาชญากรรมหลอกลวงให้โอนเงิน โดยอาศัยการสร้างความสัมพันธ์กับเหยื่อในเชิงชู้สาวในอัตราที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ จากการประเมินมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นในปี 2563 ราว 370 ล้านวอน (ราว 9.94 ล้านบาท) แต่เมื่อมาถึงปี 2566 เงินที่เหยื่อสูญเสียไปเพราะโดนมิจฉาชีพประเภทนี้หลอกลวง กลับสูงถึง 5,510 ล้านวอน (ราว 148 ล้านบาท)
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า แก๊งมิจฉาชีพเหล่านั้นมักใช้การหลอกล่อทางจิตใจและอารมณ์ ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงมากกว่า 70%
ที่มา : nextshark.com
เครดิตภาพ : YouTube /KBS 추적60분
