จากกรณีการก่อสร้าง 8 โครงการ งบประมาณกว่า 500 ล้านบาท ของกรมโยธาธิการและผังเมือง ตามงบประมาณพัฒนาเมืองเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ที่จัดลงพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ทั้งในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ และ ต.ลำน้ำพาน อ.เมืองกาฬสินธุ์ และลำน้ำชี เขต ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย และ ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย มีเพียง 2 บริษัทรับเหมาขาใหญ่ คือเป็นผู้รับจ้าง โดยผู้ว่าจ้างคือกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย รายละเอียดโครงการ เริ่มลงทำสัญญาจ้างงาน มาตั้งแต่ช่วงปี 62-ปัจจุบัน แต่ปรากฏว่าการทำงานล่าช้า ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน จนประIามว่า “ก่อสร้าง 7 ชั่วโคตร” ตามที่นำเสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น
เปิดภาพชัดๆ! 8 โครงการ ชาวบ้านเอือม สร้าง 7 ชั่วโคตรไม่เสร็จสักโครงการ
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการเกาะติดปัญหาการตรวจสอบร่วมกับ คณะกรรมการธรรมภิบาลจังหวัดกาฬสินธุ์ (กธจ.) และหน่วยงานตรวจสอบ แหล่งข่าวในพื้นที่ อ.ฆ้องชัย-อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ระบุว่า ตลอดริมตลิ่งแม่น้ำชี กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ได้จัดสรรงบประมาณ ซ่อมแซมตลิ่งเป็นเขื่อนป้องกัน รวม 3 จุด เมื่อวานเป็นจุดที่ 1 เป็นโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำชี (ระยะ 2) วัดลำชีวนาราม ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ ความยาว 385 เมตร งบประมาณ 59,270,000 บาท และยังมีจุดก่อสร้างริมตลิ่งแม่น้ำชีอีก 2 จุด คือ จุดก่อสร้างโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำชี บ้านหนองหวาย-บ้านหนองคล้า ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ ความยาว 300 เมตร งบประมาณ 39,540,000 บาท เบิกจ่าย 5,928,750 บาท และจุดโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำชี วัดใหม่สามัคคี ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ความยาว 423 เมตร งบประมาณ 59,306,000 บาท เบิกจ่าย 14,978,900 บาท ยังพบว่าทุกอย่างหยุดการเคลื่อนไหว ยังไม่มีผู้รับเหมาเข้ามาทำงานแต่อย่างใด
แหล่งข่าวระบุว่า ตามสภาพที่เห็นจะมองเห็นกองหิน กองดิน กองเสาเข็ม และรถแบ๊กโฮ ที่ดูเหมือนจะเป็นการเตรียมการก่อสร้าง แต่ในข้อเท็จจริงภาพลักษณะนี้ เป็นภาพที่นิ่งสนิทมานานหลายเดือน แต่สิ่งที่ยังเคลื่อนไหวคือความรู้สึกเจ็บปวดของชาวบ้าน กับความกังวลของผู้นำชุมชน ที่ต้องการจะได้รับโอกาสการพัฒนาการเข้ามาแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะโครงการนี้ ต้องขอบพระคุณกระทรวงมหาดไทย กรมโยธาธิการและผังเมือง ที่ได้จัดสรรงบประมาณเข้ามาแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้าน ที่ต่างหวาดผวากับปัญหาน้ำท่วม เพราะที่ผ่านมาบริเวณจุดที่อนุมัติการก่อสร้าง เป็นจุดที่แม่น้ำชีเจาะพนังดิน และทำให้เกิดน้ำท่วมที่ได้สร้างความเสียหายทั้งทรัพย์สินและชีวิตของประชาชน
“การที่ผู้รับเหมาไม่มีความรับผิดชอบในการก่อสร้าง เชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง เงินแผ่นดินตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ พฤติกรรมเช่นนี้เชื่อว่าผู้รับเหมาหากมีเจตนาไม่ดีต่องบประมาณแผ่นดิน สักวันก็จะพบกับอาถรรพณ์เงินแผ่นดินแน่นอน ดังนั้นวันนี้ การที่ผู้รับเหมาขนวัสดุก่อสร้างเข้ามาวางเอาไว้แต่ไม่มีคนงาน แถมไม่มีใครอยู่หน้างาน กรมโยธาธิการและผังเมือง จะมีคำตอบอย่างไร นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างไร ชาวบ้านที่ทุกข์ทรมานจากปัญหาน้ำท่วม เขานอนไม่หลับ แต่กลับยังจะมีการเอื้อประโยชน์ให้ผู้รับเหมากลุ่มนี้ ทั้งที่ทำไม่ดีกับแผ่นดิน จึงของให้เร่งพิจารณาด้วย”
แหล่งข่าวระบุว่า ขณะนี้ ชาวบ้านทำได้แค่เฝ้ามองร้องเรียนและวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา หลายคนกังวลใจกลัวงบประมาณสูญเปล่า รู้สึกเสียดายเงินจำนวนมหาศาลที่จะสูญสลายไปกับสายน้ำชี เนื่องจากการก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ เพราะทราบจากช่างควบคุมงานว่าผู้รับเหมาขาดสภาพคล่อง แต่ไม่มีใครทำอะไรเขาได้เพราะเป็นผู้รับเหมาขาใหญ่ และในส่วนของผู้รับเหมาช่วง หรือผู้รับเหมารายย่อย ก็เจ็บปวด ทุกข์ใจ ได้แต่กัดก้อนเกลือกิน และตามทวงเงินกับผู้รับเหมาขาใหญ่ สุดท้ายขนย้ายเครื่องจักรหนีไป รายแล้วรายเล่า เพราะผู้รับเหมารายย่อยไม่สามารถเบิกเงินตามงวดงานจากผู้รับเหมาขาใหญ่ ที่เป็นผู้รับสัญญาว่าจ้างจากกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด กธจ.กาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งจาก นายธนกฤต ระวาดชัย นายก อบต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ว่า วานนี้ (26 เม.ย.) ได้รับหนังสือจากสำนักงานโยธาธิการฯ จ.กาฬสินธุ์ เชิญผู้นำท้องถิ่น พื้นที่จุดก่อสร้างร่วมต้อนรับอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง ในวันที่ 30 เม.ย. 67 เวลา 13.00 น. ที่ห้องประชุมสำนักงานโยธาธิการฯ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งหากไม่มีอะไรคลาดเคลื่อน ก็คงจะได้มีการซักถามกันในประเด็นสงสัยและอื่นๆ ว่าทั้ง 8 โครงการที่กรมโยธาฯ จัดมาลงพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ที่เกิดปัญหาคาราคาซังเกือบทุกโครงการจะเอายังไง และจะจัดการยังไงกับผู้รับเหมาขาใหญ่รายนี้ รวมไปถึงการเปิดเผยสัญญาจ้างโครงการทั้งหมดระหว่างกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้ว่าจ้าง กับผู้รับเหมา 2 รายนี้ ในฐานะผู้รับจ้าง ที่จะได้รับทราบทางออกของปัญหาเพื่อประชาชนต่อไป