ประกาศรายชื่อทางการไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับโผ ครม.ชุดใหม่ เขย่าสุดหนีไม่พ้นกระทรวงการคลัง เพราะนอกจาก เศรษฐา ทวีสิน จะอำลาไปนั่งเก้าอี้นายกฯ เต็มตัวแล้ว ยังมี พิชัย ชุณหวชิร นั่งเป็นว่าการ ขุนคลัง พร้อมด้วย เผ่าภูมิ โรจนสกุล เข้ามาช่วยเสริมในตำแหน่ง รมช.คลัง อีกตำแหน่ง

เรียกว่าคลังยุคนี้ มีรัฐมนตรีเต็มโควตา ครบทุกอัตราศึกถึง 4 คน เพื่อรอเข้ามาทำงานใหญ่ สางปัญหาเผือกร้อนทางเศรษฐกิจ ที่รอวันปะทุอยู่ จะมีอะไรบ้าง เศรษฐกิจ เดลินิวส์ สรุปให้ฟังกัน

  1. เริ่มแรกหนีไม่พ้นเรื่องเงินดิจิทัลวอลเล็ท 10,000 บาท ที่แม้ผ่าน ครม.ไปแล้ว  แต่ในความจริงก็ยังมีเรื่องวุ่นๆ ให้ตามอีกไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นที่มาของแหล่งเงิน 5 แสนล้าน โดยเฉพาะการล้วงเงินจาก ธ.ก.ส. 1.7 แสนล้าน ตลอดจนวิธีการเปิดลงทะเบียน เงื่อนไขกติกาการใช้จ่าย การรับสมัครร้านค้ารายย่อย การใช้แอปพลิเคชัน ที่เป็นการบ้านรออยู่
  2. การจัดเก็บรายได้ที่พลาดเป้า หลังช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 67 คลังเก็บรายได้หลุดเป้าหมายไปกว่า 2.5 หมื่นล้านบาท โดยจัดเก็บรายได้สุทธิเพียง 981,902 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ  2.5%
  3. ผลักดันจีดีพีให้โต 5% เพราะ ณ ตอนนี้ ที่เป็นแบบสาละวันเตี้ยลง หลายหน่วยงานหั่นจีดีพีปี 67 ของไทยลงต่อเนื่อง ทั้งคลัง แบงก์ชาติ สภาพัฒน์ หรือที่เพิ่งผ่านมาสดๆ ร้อนๆ อย่างกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ก็เพิ่งปรับลดเศรษฐกิจไทยปีนี้ ลงจากโต 4.4% เหลือโตเพียง 2.7% ดังนั้นเป็นการบ้านว่าขุนคลังจะทำอย่างไร ให้จีดีพีให้ถึงเป้าหมายที่รัฐบาลประกาศไว้
  4. ประสานรอยร้าว คลัง-แบงก์ชาติ ที่ผ่านมาถือว่าเป็นยุคที่มีความขัดแย้งรุนแรงมากสุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินดิจิทัล การลดดอกเบี้ย  การไม่ผ่อนปรนมาตรการแอลทีวี  จากนี้จึงต้องดูท่าทีของขุนคลังคนใหม่ จะมาเป็นกาวใจ นำคลังกับแบงก์ชาติ ให้กลับมาเล่นเพลงคีย์เดียวกันได้หรือไม่
  5. การสร้างความเชื่อมั่นในตลาดหุ้น เพราะหุ้นไทยตกต่ำที่สุดในภูมิภาค ดังนั้น การที่ขุนคลังคนใหม่มาจากตลาดทุน และมีความรู้ความเข้าใจด้านนี้อยู่แล้ว จึงเป็นที่คาดหวังว่าจะเข้ามาช่วยสะสางความเน่าเฟะ ฟื้นคืนความเชื่อมั่นหุ้นกู้ หุ้นจริง ได้แค่ไหน

เหล่านี้ก็เป็นปัญหาเบื้องต้น ที่ยืนจังก้า รอขุนคลังคนใหม่ และทีม รมช.เข้ามาแก้ไขสะสางอย่างเร่งด่วนอยู่ เพราะปัญหาเศรษฐกิจตอนนี้ รอไม่ได้แล้ว เพราะเศรษฐกิจยิ่งแย่เท่าไร ก็ยิ่งสร้างความบั่นทอนทางการเมืองตามไปด้วยเท่านั้น